Drunk in love : Special : Sex on the beach
DRUNK IN LOVE
(AU : YangFeng Fiction) :
Essorhino
คำเตือน :
ฟิคเรื่องนี้ ชายรักชายนะคะ แล้วก็เป็นจินตนาการของผู้แต่งเท่านั่น
โปรดใช้วิจารณญาณค่ะ
ตอนพิเศษ : Sex on the beach
วันนี้ ฮั่นเกอประกาศ ปิดบาร์ 3 วัน พาพวกเรายกโขยงกันที่ริมชายหาดแห่งหนึ่ง
แต่ไม่ได้พามาเปล่า ๆ เพราะวันนี้เป็นวันแต่งงานเพื่อนสนิทของฮั่นเกอ
เจ๊เยี่ยนนักร้องสาวสุดสวยกับสามีสุดหล่อ แถมรวยสุด ๆ ถึงขนาดที่จ้างพวกเราทั้งหมด
ยกกันมาตั้งบาร์อยู่ริมชายหาดเพื่อแจกแขกเหรื่อที่มางานนี้ด้วย
บรรยากาศสบาย ๆ ยามหัวค่ำ ลมเย็น ๆ
ของทะเล เข้ากับดนตรีสดที่บรรเลงออกมาง่ายๆ ทำให้ผมผ่อนคลาย
วันนี้เจ้าสาวถึงจะไม่ได้ขึ้นร้องเพลงเอง
แต่นักร้องก็ยังเป็นเสียงที่คุ้นหูผมอยู่ดี
เฉินเสียงนั่งร้องเพลงอยู่อีกด้านของบาร์
ในมือมีกีตาร์โปร่งคูใจกำลังร้องเพลงอยู่บนเวที โดยทีเจ้าของบาร์นั่งอยู่ติดกับเวที
คอยนั่งฟังไม่ห่าง ส่วนผม ถึงจะมีลูกค้าแวะเวียนไปมา
ก็ยังมีลูกค้าคนหนึ่งนั่งอยู่ท้ายบาร์ไม่ไปไหน
เพื่อน
ๆ บาร์เทนเดอร์ และบริกรก็ยังอยู่กันครบ ส่วนหนึ่งอยู่ที่บาร์อีกด้าน
อีกส่วนเปลี่ยนตัวเองใส่ชุดสีสันสดใสเข้ากับสถานที่
คอยอำนวยความสะดวกให้กับแขกในงานแต่งของเจ้าภาพ ทุก ๆ คนต่างมีรอยยิ้ม ทั้งแขก
เจ้าภาพ รวมถึงพวกผมด้วย
วันนี้ผมแทบไม่ต้องชงเหล้าขม
ๆ เลย บรรยากาศสบาย ๆ แบบนี้ เตกีล่าเย็น ๆ หรือ คอกเทลหวาน ๆ จะขายดีเป็นพิเศษ และถึงแม้จะมีสาว
ๆ แวะเวียนมาหาผมบ่อยครั้ง ผมก็เสียวแว๊บ ๆ
ที่สันหลังตอนลูกค้าท้ายบาร์มองมาทุกครั้ง จนผมต้องแวะเข้าไปเติมคอกเทลให้เมื่อสังเกตเห็นว่ามันหมดลง
“อี้เฟิง
อย่าดื่มมากนักสิ”
“คุณบาร์ก็ชงอ่อน
ๆ สิ นี่กะมอมอี้เฟิงแล้วไปหาสาว ๆ ใช่ไหม”
“โถ่
อี้เฟิง ผมเปล่าเลยนะครับ”
“คุณบาร์
อี้เฟิงอยากได้ ‘Sex on the beach’”
“เป็นแฟนบาร์เทนเดอร์มานานหรอครับ รู้จักชื่อเหล้าบ้างแล้ว เดี๋ยวผมไปทำให้นะครับ”
“ฮื่อ
ชื่อเหล้าก็รู้จักนะคุณบาร์ แต่ไม่ได้หมายถึงเหล้าหรอก หมายถึงคืนนี้ต่างหาก”
“อี้เฟิง!”
“คุณบาร์ทำเป็นตกอกตกใจไปได้
แล้วได้หรือเปล่าล่ะ”
“เดี๋ยวผมไปชงเหล้ามาให้นะครับ”
ผมหน้าร้อนไปหมดกับคำอ้อนของแฟนสุดที่รัก
จึงเดินหนีออกมาทั้ง ๆ ที่ยังไม่ทันตอบคำถาม
ได้ยินเสียงอี้เฟิงหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจที่แกล้งผมได้ แต่ผมไม่ยอมหรอกนะครับ
รอจบงานค่อยว่ากันแล้วกัน
ผมเดินไปชงเหล้าแก้วโปรดของอี้เฟิง
และเผื่อแผ่อีก 2 แก้ว ให้นักร้องบนเวทีที่ตอนนี้ลงมานั่งข้าง ๆ ฮั่นเกอแล้ว
บนเวทีถูกส่งต่อให้กับพิธีกรที่ขึ้นดำเนินพิธีการ
บ่าวสาวกำลังยืนยิ้มแย้มอยู่บนเวที ผมพาอี้เฟิงออกจากบาร์ เดินมานั่งข้างเฉินเสียง
ยื่นแก้วคอกเทลส่งให้ผู้ที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว ทั้งสองคนยิ้มขอบคุณแล้วยกแก้วของตัวเองขึ้นจิบ
“ฮั่นเกอ
ขอบคุณนะครับที่ให้ผมพาอี้เฟิงมาได้”
“เรื่องเล็กน่าหยางหยาง
ยังไงวันนี้ก็เป็นวันดีนี่นะ” ฮั่นเกอตอบ
พร้อมวาดแขนไปพาดไว้ที่เก้าอี้ของเฉินเสียงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เพื่อนผมหันไปมองฮั่นเกอเล็กน้อย
ก่อนจะหันไปมองที่เวทีอีกครั้ง
“นี่
เค้าจะโยนดอกไม้แล้วนะ” เฉินเสียงที่ยังมองอยู่ที่เวทีพูดขึ้น
“คนได้ดอกไม้
จะได้แต่งงานเป็นคนต่อไปใช่ไหม” ผมถามขึ้น
ฟึ่บ!
“ใช่”
คนที่ตอบเป็นฮั่นเกอ ส่วนคนที่ตอนนี้นั่งข้างผมกำลังตาโตเพราะดอกไม้ช่องามที่ลอยละลิ่วมาอยู่บนตัก
“เอ้า คนที่ได้ดอกไม้เจ้าสาว ขึ้นมาบนเวทีหน่อยนะครับ แหม สาว ๆ
ข้างล่างลุ้นกันตั้งนานเชียว” พิธีกรด้านบนเอ่ยเชิญอี้เฟิงที่ตอนนี้หน้าแดงก่ำ
ส่ายหัวอย่างปฎิเสธการขึ้นไปโชว์ตัวบนเวที
“นะครับ
แหม คุณบาร์เทนเดอร์สุดหล่อข้าง ๆ ขึ้นมาแทนก็ได้นะครับ”
พอได้ยินเสียงพิธีกรพูดออกไมค์แบบนั้น
อี้เฟิงที่ตอนนี้เขินจนหน้าแดงก่ำก็ยัดเยียดช่อดอกไม้ใส่มือผม
“คุณบาร์ไปนะ
ไปแทนอี้เฟิงหน่อย”
ผมยิ้ม
แล้วรับช่อดอกไม้มาถือไว้เสียเอง ผมส่ายหัวอย่างเอ็นดู ทีเมื่อกี้แกล้งผมเซี้ยว ๆ
ไม่เห็นเขิน ทีตอนนี้เขินจนหน้าหวาน ๆ นั้นแดงไปหมด ผมเดินขึ้นเวทีไปเจอกับเจ๊เยี่ยนที่ขยิบตาให้ผม
ผมถึงบางอ้อ ที่แท้เจ๊ก็จงใจนี่เอง
“คุณบาร์เทนเดอร์สุดหล่อชื่ออะไรนะครับ
แล้วได้ดอกไม้แบบนี้ มีใครให้แต่งหรือยังครับเนี่ย ตอบให้สาว ๆ
ชื่นใจหน่อยได้ไหมครับ”
“ผมชื่อหยางหยางครับ ส่วนที่บอกว่ามีคนให้แต่งหรือเปล่า
ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาจะยอมแต่งหรือเปล่านี่ล่ะครับ”
“แหม
หล่อ ๆ แบบนี้ใครปล่อยให้หลุดมือไปก็แย่แล้ว แหม
แล้วสาวคนไหนได้เป็นผู้โชคดีของคุณกันครับเนี่ย”
“ก็...ก็ที่ได้ดอกไม้นี่มายัดใส่มือผมนี่ละครับ”
วิ๊ววววววววววว กรี๊ดดดดดดดดดดด
เสียงกรี๊ดแซวดังขึ้นทันทีที่ผมเอ่ยว่าใครกันที่เป็นเจ้าของหัวใจของผม
ผมอมยิ้มแล้วมองไปทางอี้เฟิงที่ตอนนี้เอามือปิดหน้าอย่างเขินอาย
แต่ใบหูแดงก่ำก็บอกผมได้เป็นอย่างดี ผมยิ้มกับเจ๊เยี่ยน เอ่ยขอบคุณพิธีกรเบา ๆ
แล้วเดินกลับไปหาอี้เฟิง ยื่นดอกไม้คืนให้ พร้อมบอกรักเบา ๆ
แล้วแตะริมฝีปากลงที่ข้างแก้ม
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงสาว ๆ กรี๊ดเมื่อได้เห็นฉากสวีทเบา ๆ ของเราสองคน และต้องกรี๊ดมากขึ้น เมื่อฮั่นเกอที่เมื่อครู่ลุกหายไปไหนไม่รู้เดินกลับมาพร้อมกุหลาบช่อใหญ่
เดินมานั่งลงตรงหน้าเฉินเสียงแล้วยื่นดอกกุหลาบในมือให้ เฉินเสียงที่ยังตะลึงไม่หาย
เอื้อมมือไปรับดอกไม้อย่างงง ๆ ฮั่นเกอที่ยื่นดอกไม้ให้เสร็จ ก็ทรุดนั่งลง
ไม่ได้พูดอะไรอีก เฉินเสียงเองก็ดูมึน ๆ แต่ก็วางดอกไม้ไว้ข้างตัว แล้วหยิบการ์ดที่อยู่ตรงช่อออกมาอ่าน
พออ่านสีหน้าก็เปลี่ยนไปยิ้มยินดี ก่อนเอียงหัวไปซบไหล่ฮั่นเกอที่รออยู่แล้วอย่างมีความสุข
อีกไม่นานงานเลี้ยงก็คงเลิกรา
ตอนนี้ได้ฤกษ์ส่งตัวบ่าวสาวขึ้นห้องหอไปแล้ว ผมกับอี้เฟิงขอตัวมาเก็บของ และ
ทำความสะอาดที่บาร์ แล้วเตรียมเข้าห้องพักที่ฮั่นเกอจองไว้ให้ ซึ่งเป็นบังกะโลเล็ก
ๆ เป็นหลัง ๆ ติดกัน ผมอยู่ห้องเดียวกับอี้เฟิง
และฮั่นเกออยู่กับเฉินเสียงหลังถัดไป เพื่อน ๆ บาร์เทนเดอร์และบริกรคนอื่น ๆ
ก็พักด้วยกัน แต่เห็นว่าคืนนี้นัดกันจะไปผับที่อยู่ในเมือง จะไปทำไมก็ไม่รู้
ทุกวันนี้อยู่แต่ในผับไม่เบื่อหรือไงนะ
ผมที่อาบน้ำเสร็จเดินออกมารับลมเย็น
ๆ ที่ระเบียง รออี้เฟิงที่เข้าไปชำระร่างกายต่อจากผม ผมแหงนมองท้องฟ้า
วันนี้ท้องฟ้ากระจ่างใส ลมเย็น ๆ ยามค่ำคืนพัดเข้ามาปะทะให้ร่างกายสดชื่น
เสียงคลื่นกระทบฝั่งเบา ๆ ช่วยให้บรรยากาศในคืนนี้โรแมนติกมากขึ้น
“คุณบาร์
ไปเดินเล่นกัน”
“ครับ
ไปสิ”
อี้เฟิงที่อาบน้ำจนตัวหอมเดินมาหยุดข้าง
ๆ ผมแล้วเอ่ยชวนกันออกไปเดินเล่นที่หาดทรายตรงหน้า เราเดินจับมือกันไป
เดินไปเรื่อย ๆ ลมเย็น ๆ ยังคงพัดมาบางเบา
อี้เฟิงเดินไปที่ริมหาดที่คลื่นซัดมาเป็นพัก ๆ ใช้กิ่งไม้ที่ตกอยู่เขียนตัวอักษรบางอย่างลงผืนทราย
‘Liyifeng love Yangyang’
ผมนั่งลงเคียงข้างอี้เฟิง หยิบกิ่งไม้จากมืออีกฝ่ายมาเขียนต่ออีกบรรทัด
‘I’ll only one for you’
อี้เฟิงเงยหน้ามองผม ก่อนจะโผเข้ากอดจนเราล้มลงไปกองกันตรงหาดทราย
ผมรวบตัวเขาเข้าสู่อ้อมกอด เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเจ็บ อี้เฟิงจึงเกยอยู่กับอกของผม
เขาเงยหน้าขึ้นมา เรามองตากันและกัน ผมเห็นความรัก
และความเชื่อใจอยู่ในแววตาคนตรงหน้า ผมดึงอี้เฟิงเข้ามาจูบ
จูบให้สมกับความรักของเรา ดูดดึงริมฝีปากหยอกเย้ากันและกัน สองมือลูบไล้เนื้อตัวคนตรงหน้าจนตัวสั่น
ผมเลื่อนริมฝีปากไปตามซอกคอ จูบไล่ลงมาถึงตำแหน่งหัวใจ ก่อนกดจูบลงไปอย่างหนักแน่น
เน้นย้ำว่าผมรักคนตรงหน้า รักเจ้าของหัวใจของผมคนนี้แค่คนเดียว
เสียงหัวใจของเราสองคนเต้นดังประสานไปกับบทเพลงรักริมหาดทราย
ดังกึงก้องประทับลงกลางใจของเรา
ผมคงชง
Sex on the beach บ่อย
ๆ ไม่ได้แล้วละครับ เพราะอะไร คุณก็น่าจะรู้นะครับ แค่นี้ผมก็โดนแมวน้อยข่วนจนหลังลายแล้วละ....
แถม...
“ฮั่นเกอ
ที่เขียนในโน้ตนั่นน่ะ ขอบคุณนะครับ”
“ต้องขอบคุณเกอทำไม
เพราะยังไง เกอก็จะอยู่ข้าง ๆ อาเสียงของเกอแบบนี้ตลอดไป”
เฉินเสียงนึกไปถึงคำในกระดาษโน้ตแผ่นเล็กที่ติดอยู่ที่กุหลาบช่อสวยก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
ตัวหนังสือไม่กี่คำ แต่ทว่าหนักแน่นนักในความรู้สึกของเขา ‘I’ll always beside you’
ตอนนี้ผมอยู่ในอ้อมกอดของฮั่นเกอ อ้อมกอดที่อบอุ่นสำหรับผมเสมอ ผมคิดถูกแล้ว
ที่เปิดใจให้กับคนที่พร้อมจะดูแลผมได้ ผู้ชายคนนี้เคียงข้างผมเสมอ ไม่ว่าจะวันไหน
ๆ และนั่นทำให้ผมมีความสุข
“ผมรักฮั่นเกอนะ”
ผมเอ่ยคำที่ยังไม่เคยพูด
ไม่เคยบอกออกไปให้คนตัวสูงได้ยิน ซึ่งได้รับรางวัลกลับมาเป็นอ้อมกอดที่กระชับขึ้น
ฮั่นเกอก้มลงมาจรดจูบลงบนหน้าผากของผม
ความอบอุ่นละมุนละไมลอยวนอยู่ในบรรยากาศของเรา
ถึงอากาศที่ระเบียงตรงนี้จะเย็นแค่ไหน ก็แทรกความอบอุ่นนี้ไม่ได้หรอก... ซึ่งผมหลงรักความอบอุ่นนี้เสียแล้ว
ระยะห่างของหัวใจเราลดลงทีละน้อย ความรักของผมเพิ่มขึ้นมาทีละนิดๆ
จากความอบอุ่นในหัวใจ
“ฮั่นเกอก็รักอาเสียง”
“ขอบคุณนะฮั่นเกอ ขอบคุณที่รักผม และอยู่ข้างผมตลอดมา”
ผมยืดตัวขึ้นไปจูบฮั่นเกอ
เอามือคล้องคอเขาให้โน้มลงมาบดเบียดริมฝีปากมากขึ้น และมากขึ้น
จนระเบียงร้อนระอุด้วยความอบอุ่น และ ความรักของเรา
----------------------------- The END -----------------------------------
จบจริง ๆ แล้วค่ะ แงงงงงงงงงงงงงง
ขอบคุณมากนะคะ ที่เข้ามาอ่าน #คุณบาร์
นิยายเรื่องนี้อาจจะไม่สนุก
ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก แต่ยังไงก็ยังอยากให้ทุกคนมีความรักที่สวยงาม เปี่ยมไปด้วยความเชื่อใจกันและกัน
ไม่ต้องรักกันมากขึ้น แต่เราอยากให้ทุกคนเห็นว่าความรักไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ
และไม่ได้จบลงง่าย ๆ ถ้าเรายังรักกันมากพอ
ขอให้ทุกคนมีความรักที่สมหวังนะคะ
ขอบคุณอีกครั้งที่เข้ามาอ่านค่ะ //โค้ง
ถ้าไม่รังเกียจก็คอมเม้นท์ได้ที่ #คุณบาร์ นะคะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น