(AU) SF FIC : TO BE LOVE #เกอกินเด็ก : #7 END [ถิงหยวน]

FIC : TO BE LOVE #เกอกินเด็ก : #7 (END)
Paring : William Chan Wai-Ting X Wang Yuan
Rate : ถีบเฮียเข้าคุก








            “เกอ เล่ามาสิ ไหนบอกถึงบ้านแล้วจะบอกไง” ผมผุดลุกขึ้นจากโซฟาหลังจากที่กลับมาบ้านแล้วถิงเกอก็ทิ้งผมไว้ที่ห้องนั่งเล่น แล้วก็หนีหายขึ้นห้องตัวเอง แถมยังใส่กลอนไม่ให้ผมเปิดเข้าไปได้ ผมจึงกลับมานั่งรอที่โซฟาพร้อม ๆ กับเรื่องที่ยังคงคาใจ ซึ่งพออีกฝ่ายลงมาจากห้อง ผมก็ลุกขึ้นเดินไปถามทันที


         “ก็ไม่เห็นมีอะไรเลยเสี่ยวหยวน อี้เฟิงก็เป็นแฟนหยางหยาง พอติดต่อไม่ได้ก็งอน ก็เพราะหยางหยางมัวแต่รีบมาส่งเราไว้กับเฮียเลยไม่ได้บอกอี้เฟิงไว้ว่าจะไปทำงานต่างเมือง อี้เฟิงรู้ว่าเฮียสนิทกับหยางหยาง พอบังเอิญเจอ ก็เลยเข้ามาทัก เท่านั่นเอง”


         “แล้วทำไมเกอต้องไม่สนใจผมล่ะถ้าไม่มีอะไร พี่อี้เฟิงเค้าเป็นผู้ใหญ่กว่า เกอชอบแบบนั้นใช่ไหมล่ะ” ผมระบายทุกอย่างในใจออกมา วันนี้ผมไม่สนแล้วว่าเกอจะมองผมยังไง ถ้าเกอจะไม่รักผม เค้าก็คงไม่มีทางมารักหรอก ไม่ว่าวันไหนก็เหอะ ผมยกมือปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ ผมไม่ได้เศร้า ผมหงุดหงิด บอกสิว่าผมไม่ได้อ่อนแอ


         “ที่เกอบอกว่าต้องอดทนเมื่อกลางวัน คืออดทนกับคนอย่างผมใช่ไหม แล้วที่บอกว่ารัก มันก็แค่เกอรักผมที่เป็นน้องของหยางเกอเกอ ใช่มั้ย เกอตอบผมสิ อย่ามัวแต่นิ่ง”


         “คิดไปไหนแล้ว เสี่ยวหยวน”


         “ก็คิดแบบที่ควรคิดมาตลอดไงถิงเกอ ผมไม่ควรมาอยู่กับเกอ ไม่ควรรักเกอด้วยซ้ำ!!!


         “หวังหยวน!” ถิงเกอพูดเสียงดังพลางจ้องหน้าผม วินาทีนี้ผมไม่กลัวแล้ว ผมไม่มีทางที่จะสมหวังด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นถ้าผมจะต้องเจ็บ ผมจะเจ็บทีเดียว ไม่เอาแล้วเหมือนเมื่อปีก่อนที่ผมต้องทนเจ็บซ้ำ ๆ ย้ำกับตัวเองตลอดเวลาว่าผมมันเด็ก ผมไม่คู่ควร ผมหวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่าถ้าผมโตกว่านี้อีกหน่อย เกอก็จะรักผม แต่นี่ยังไงล่ะ ไม่ว่าผมโตเท่าไหร่ ก็แพ้คนที่อายุพอ ๆ กับเกออยู่ดี ถึงไม่ใช่อี้เฟิงเกอ แต่เป็นคนอื่นล่ะ ถ้าเป็นสาว ๆ หุ่นเซ็กซี่ล่ะ ผมก็จะยิ่งทำใจไม่ได้น่ะสิ เพราะแบบนี้ ผมจะยอมเจ็บแค่ครั้งเดียว ขอแผลใหญ่ ๆ ให้ปางตายเลยก็ได้ ผมขอแค่คำว่าเกอไม่มีทางรักผม ไม่มีวันที่จะรักเด็กกะโปโลคนนี้!


         “เสี่ยวหยวน ฟังเฮียก่อน อย่าเพิ่งคิดมาก อย่าเพิ่งร้องไห้”


         “ผมไม่ได้ร้อง”


         “ก็เห็นอยู่ว่าร้องจะมาเถียงเฮียทำไม” ผมถูกดึงให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่น ผมดิ้นรน ถ้าไม่รักก็อย่ามากอดสิ อย่ามาให้ความหวังผม แต่ดิ้นอย่างไรก็ไม่สามารถหลุดออกจากอ้อมแขนแกร่งที่ยังคนกอดรัดผมอยู่อย่างนั่น ผมจึงเลิกพยายามดิ้นให้เหนื่อยเปล่า


         “เฮียไม่ได้ชอบอี้เฟิง”


         “แต่เกอก็ชอบคนอื่น” ผมเถียงทันควัน ความน้อยอกน้อยใจหลั่งไหลออกมาผ่านน้ำตา ดวงตาที่พร่ามัวทำให้เขาแทบมองไม่เห็นหน้าของคนที่กกกอดตัวเองไว้ ทั้งที่อยู่ใกล้ขนาดนี้ แต่กลับไม่สามารถเข้าไปอยู่ในใจอีกฝ่ายได้


         “เสี่ยวหยวน เข้าใจเฮียบ้างสิ”


         “จะให้เข้าใจอะไร เกอปล่อยผมสิ ปล่อย! ผมไม่อยู่กับเกอแล้ว ผมจะไปหาเชียนกับไค” ผมดิ้นสุดแรงก็แล้วยังไม่อาจสู้คนที่แข็งแรงเยี่ยงลิงถึกได้ ผมนั่งฮึดฮัดหอบหายใจจนหน้าแดงก่ำ


         “จะไปทำไม! ถิงเกอตะคอกใส่ผมเสียงดังจนผมตกใจน้ำตาร่วง


         “ฮึก แค่นี้ทำไมเกอต้องตวาดผมล่ะ ปล่อยสิ ปล่อย!!! อุ๊บ…”  ถิงเกอก้มลงมาประกบจูบปิดปากผมอย่างแรงจนผมเจ็บ ลิ้นร้อน ๆ สอดแทรกเข้ามาอย่างหยาบโลน ไม่มีความอ่อนโยนแบบเมื่อเช้า ไม่มีความเคลิบเคลิ้มเหมือนเมื่อตอนสาย มีแต่การปลุกเล้าโลมเลียรุนแรงราวกับจะทำโทษ ผมต่อต้านด้วยการกัดลิ้นของถิงเกอจนอีกฝ่ายถอนริมฝีปากออกอย่างรวดเร็ว


         “หวังหยวน กัดเฮียทำไม”


         “ก็เกอจูบผมทำไม”


         “ก็เสี่ยวหยวนไม่เงียบ พูดอะไรก็ไม่ฟัง” ถิงเกอยกมือปาดที่ริมฝีปากที่เปื้อนไปด้วยน้ำลาย ก่อนจะจับผมลงไปนั่งที่โซฟาอีกครั้ง


         “รู้ไหม เฮียรักคนคนหนึ่งอยู่...” เกอไม่ต้องมาบอกผมว่าเกอรักใคร ผมไม่อยากรู้ ผมจะยกมือขึ้นปิดหู แต่ก็ติดมือใหญ่ที่เอื้อมมาจับมือผมไปกุมไว้


         “...เฮียเจอคนคนนั้นตั้งแต่ยังเด็ก ตัวเล็ก ๆ ราวกับลูกกระต่ายเพิ่งเกิด เฮียไปหาเด็กคนนั้นทุกวันหลังเลิกเรียน ตอนนั้นเพิ่งจะขึ้น ม.ปลาย เพื่อน ๆ ถามกันใหญ่ ว่าทำไมเลิกเรียนแล้วต้องรีบกลับบ้าน ตอนนั้นก็ได้แต่ตอบเพื่อนว่าจะไปหาเจ้าสาว โดนเพื่อน ๆ ล้อไปเป็นปี แต่เฮียก็ไม่ได้สนใจหรอก ก็เจ้าหนูนั่นน่ารักกว่าอะไรทั้งหมดนี่นา” ถิงเกอมองหน้าผม ก่อนดึงผมเข้าไปกอดไว้อีกครั้งแล้ววางคางเกยบนศีรษะของผม และเริ่มเล่าอีกครั้ง คราวนี้ ผมตั้งใจฟังมากขึ้น


         “...เด็กคนนั้นก็โตขึ้น ๆ ในขณะที่เฮียเองก็ด้วย เรื่องเรียนก็หนักขึ้นจนแทบไม่มีเวลามาหาเจ้าตัวเล็ก จนโตเข้าหน่อย ก็ชอบวิ่งมาหา เรียกเกอเกอ เฮียนี่ใจเต้นแรงเหมือนอกจะระเบิด เจ้าตัวเล็กนั่นน่ารัก ตัวขาว ๆ ปากแดง ๆ เฮียรู้ตัวว่าหลงรักเด็กคนนี้เข้าแล้ว แต่ว่า เด็กน้อยของเฮียเหมือนผ้าขาวบริสุทธิ์ เฮียไม่อยากแต่งแต้มสีดำ ๆ เทา ๆ ของเฮียลงไป เฮียแค่อยากให้เด็กน้อยของเฮียได้เลือกชีวิตเป็นของตัวเอง ได้เล่นสนุก ได้เจอเพื่อน ๆ ดีกว่ามาติดหนึบอยู่กับคนที่อายุมากกว่าเป็นรอบครึ่งรอบ เฮียจะรอจนกว่าที่เจ้าแสบของเฮียจะโต โตพอที่จะมั่นใจในตัวเอง ว่าจะฝากชีวิตที่เหลือไว้กับเฮีย โตพอที่จะคิดได้ว่าความรักของเราจะไม่ฉาบฉวย โตพอที่จะยอมรับภาวะทางสังคม และยอมรับใจตัวเอง เฮียก็แค่คนเห็นแก่ตัวเสี่ยวหยวน เฮียแค่อยากให้เสี่ยวหยวนมีความสุขที่สุด เข้าใจเฮียหรือยัง”


            “เกอโกหก เกอแค่ปลอบใจผม”


         “เฮียจะโกหกเสี่ยวหยวนให้ได้อะไรขึ้นมาล่ะ เฮียจะทนมาขนาดนี้ทำไม ถ้าไม่รักเสี่ยวหยวน”


            “เกอ ที่เกอพูดมาทั้งหมด คือผมหรอ ฮึก คือผมจริง ๆ ใช่ไหม” ผมพูดทั้งน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความดีใจ ยกมือกอดตอบคนที่ตอนนี้โอบเขาไว้ทั้งตัว


         “เด็กบ๊อง จะมีใครอีกล่ะที่เฮียตกหลุมรักตั้งแต่เกิด คนที่บอกเสี่ยวหยวนให้โตกว่านี้ คนที่ดีใจแทบกระโดดตอนที่เสี่ยวหยวนบอกรัก เฮียคนนี้แหล่ะ แต่ต้องอดทนแค่ไหน เพราะไม่อยากให้คนที่ตัวเองรักมีอนาคตที่ดี” ถิงเกอก้มลงมาจูบที่หน้าผากของผม ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านออกมาครอบคลุมเราทั้งสองคน ผมเงยหน้าจุมพิตที่ปลายคางของถิงเกอ


         “เกอ ผมรักเกอ เสี่ยวหยวนรักเหว่ยถิงเกอเกอ”


         “เฮียก็รักเสี่ยวหยวน รักมาก รักมาตลอด”


         ถิงเกอก้มลงมาจูบปิดปากของผมเบา ๆ จูบย้ำ ๆ โดยไม่ได้สอดแทรกปลายลิ้นรุกล้ำเข้ามา จูบที่ทำให้ทุกความรู้สึกกระจายไปทั่วร่างกาย จนสุดท้ายที่ริมฝีปากของเราประกบกันแนบแน่น ดูดดึงแลกเปลี่ยนความรักและความเข้าใจ ทุกความหมายของคำว่ารักที่ถิงเกอบอกผม


         “เกอ ทีหลังไม่ต้องคิดแทนผมได้ไหม ผมเสียใจมาตลอดเพราะคิดว่าเกอไม่เคยรักผม ผมโกรธเกอ ถึงตอนนี้เกอบอกรักผม ผมก็จะโกรธเกอ”


         “เฮียขอโทษนะเสี่ยวหยวน”


            “ผมไม่ยกโทษให้เกอหรอก ตาแก่บ้า ทำร้ายจิตใจผม”


         “มากไปเสี่ยวหยวน เฮียแค่ 30 จะมาว่าเฮียเป็นตาแก่ได้ไง”


         “ผมไม่สน ก็เกอแก่กว่าผม เกอต้องง้อผม”


         “คบกับเกอนะ เสี่ยวหยวน”


         “ง้อแค่นี้อย่าหวังว่าผมจะหายโกรธ เกอต้องง้อผมอีก ง้อจนกว่าผมจะยอมคบกับเกอแล้วกัน ให้ผมเสียใจตั้งนาน”


         “อย่าใจร้ายกับเฮียสิเสี่ยวหยวน นะ นะครับ”


         “หิวแล้ว เกอ ผมอยากกินหมี่ผัด” ผมเปลี่ยนเรื่องแล้วลุกขึ้นจากตักของถิงเกอก่อนเดินนำไปที่ครัว


         “ไม่มีหรอกเสี่ยวหยวน กินมาม่าไปก่อนแล้วกัน”


         “เกออ่ะ!


            “ฮ่า ๆ เอาน่า เดี๋ยวคืนนี้ให้กินกล้วย!


         “เกออย่ามาทะลึ่ง”


         “ทะลึ่งอะไร เสี่ยวหยวนนั่นแหล่ะ คิดไปเอง เฮียมีกล้วยหอมอยู่ในครัวต่างหาก ฮ่า ๆ โตกว่านี้ค่อยกินนะ กล้วยของจริงน่ะ”


         “เกอ ผมงอนแล้ว อย่ามาล้อผมนะ”


         “มาเสี่ยวหยวน ไปกินข้าวแล้วอาบน้ำนอนได้แล้ว”


         “ครับพ่อออออออ”










         ผมก้าวออกมาจากห้องน้ำ เดินฮัมเพลงออกมาอย่างหัวใจเป็นสุข ผมคิดถูกแล้วที่บอกความรู้สึกของตัวเองทั้งหมดให้หวังหยวนรับรู้ แม้น้องจะยังเป็นเด็ก แต่ก็คงโตพอที่จะเข้าใจอะไรได้ไม่ยาก อีกอย่าง ผมรักน้องมากเกินไป รักจนพ่ายแพ้กับน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาแดงช้ำ เมื่อกลางวันผมรู้สึกผิดมากที่ดุน้องกลางร้านอาหาร แต่ก็คิดว่าน้องเองก็คงเสียใจ ตอนที่เสี่ยวหยวนหายไปผมแทบเป็นบ้า เหมือนหัวใจถูกกระชากออกมาขยี้ ผมโทรหาเจ้าตัวแสบของผมจนโทรศัพท์ร้อน โวยวายจนอี้เฟิงแทบจะตบหัวผมให้สติกลับมา และในเวลาที่ผมแทบจะวิ่งขึ้นไปหาประชาสัมพันธ์เพื่อขอดูกล้องวงจรปิด เสี่ยวหยวนของผมก็รับสาย เสียงสะอื้นที่ดังลอดออกมาทางปลายสายทำให้หัวใจผมเจ็บหนึบ แทบอยากจะต่อยตัวเองที่ทำน้องร้องไห้ ผมพยายามอธิบายให้คนตัวเล็กเข้าใจผม ซึ่งก็ดีเหลือเกินที่หวังหยวนมีเพื่อนที่ดี



         แอดดด



         ผมหันหน้าไปหาประตูห้อง ก็เห็นเสี่ยวหยวนลากหมอนเดินเข้ามาในห้องของผม ผมเลิกคิ้วเป็นคำถามว่าเข้ามาทำไม เสี่ยวหยวนก็เดินเอาหมอนไปวางบนเตียงแล้วเดินเข้ามาสวมกอดผมจากด้านหลัง


         “เกอ วันนี้ให้ผมนอนกับเกอนะ”


         “ได้ยังไงเสี่ยวหยวน เราก็นอนห้องเราสิ จะมานอนเบียดเฮียทำไม”


         “เกอ ผมอยากนอนกับเกอ”


         เจ้าเด็กนี่จะรู้ไหมว่านอนของผมกับนอนของเขามันคนละความหมายกัน ผมยกมือขึ้นกุมขมับ แต่ถ้าไม่ให้เด็กแสบนี่นอนด้วย เดี่ยวก็ร้องไห้อีกล่ะสิ


         “เกออออออ นะ ให้ผมนอนด้วย ผมอยากนอนกอดเกอเหมือนตอนเด็ก ๆ”


         “เสี่ยวหยวน เราไม่ใช่เด็กตัวเล็ก ๆ เหมือนเมื่อก่อนที่ชอบนอนบนอกเฮียนะ”


         “ไม่ได้หรอ เกอไม่ได้รักผมจริง ๆ ใช่ไหม เกออย่าลืมสิว่าผมยังโกรธเกออยู่นะ”


         ผมแพ้ครับ เถียงยังไงผมก็แพ้ ให้ตายสิ ผมไม่ได้กลัวการนอนกับเสี่ยวหยวน ผมกลัวตัวเองจะทนไม่ได้ แล้วไอ้ที่ทน ๆ มาหลายวันหลายปีมันจะเสียเปล่า ไอ้คำพูดหล่อ ๆ เมื่อเย็นมันก็จะหมดความหมายน่ะสิ แต่ยังไงผมก็แพ้น้ำตาเด็กอยู่ดี


         ผมพยักเพยิดให้เสี่ยวหยวนขึ้นไปนอนบนเตียง ก่อนที่ตัวเองจะเดินลงไปเพื่อสำรวจความเรียบร้อยของบ้านว่าปิดมิดชิดดีแล้วจึงกลับขึ้นมาที่ห้องของตัวเอง ก่อนจะพบว่า เด็กน้อยหลับไปเสียแล้ว ผมเดินไปนั่งที่ริมขอบเตียง ยกมือขึ้นปัดปอยผมที่ปกปิดใบหน้าหวาน ๆ นั่นออก ก่อนจะก้มลงจูบที่หน้าผากนั้นเบา ๆ แล้วล้มตัวลงนอนเคียงข้าง คนตัวเล็กที่ผมคิดว่าหลับไปแล้วก็ขยับตัวเข้ามาซุกที่อกแล้วเงยหน้าผมด้วยแววตาหวานฉ่ำ


         “เกอ”


         “หืม ว่าไงเสี่ยวหยวน”


         “เสี่ยวหยวนรักเกอนะ รักเกอมากกว่าใคร”


         “เฮียก็รักเสี่ยวหยวน นี่อ้อนแบบนี้จะเอาอะไรอีก หืม”


         “เปล่าสักหน่อย” ผมกอดกระชับคนตัวเล็กที่ซุกอยู่กับอก ก่อนจะก้มหน้าลงหอมแก้มกระต่ายน้อยดังฟอดก่อนจะโอบผมไว้ทั้งตัว ก้มลงจูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากบาง จูบย้ำ ๆ จนสุดท้ายก็นาบริมฝีปากลงมาหาอีกครั้ง คราวนี้ดูดดื่มด้วยความรัก ปลุกเร้าอารมณ์หวามขึ้นมาทีละน้อย จูบซ้ำ ๆ  ราวกับพร้อมจะฉีกกระชากวิญญาณให้หลอมรวมไปด้วยกัน


ผมเลื่อนรอยจูบไปที่ข้างแก้ม ใบหู ต้นคอ ดูดดึงเนิ่นนานจนเกิดร่องรอยรักอีกรอย มือเรียวสอดเข้าไปในเสื้อตัวนุ่ม ปัดป่ายผ่านยอดอกแข็งชันจากอากาศหนาวและอารมณ์หวาน ๆ


“อ๊ะ ยะ เกอ เกอ” และแน่นอนว่าไม่ใช่แค่มือที่ปัดป่ายผ่านยอดอก มืออีกข้างดึงรั้งเสื้อตัวสวยให้หลุดออกจากร่างขาว ๆ ริมฝีปากร้อนผ่าวจุมพิศลงตรงที่ตำแหน่งหัวใจ ก่อนเข้าครอบครองยอดอกอีกข้าง ปรนเปรอความปรารถนาผ่านปลายลิ้น ดูดดึงยอดอกจนขึ้นสีแดงก่ำ ผมพลิกตัวให้เสี่ยวหยวนนอนคว่ำ กดริมฝีปากลงกดจูบที่ลาดไหล่นวลอีกครั้ง


ผมไล่จูบระเรื่อยลงมาตั้งแต่หลังคอจรดแผ่นหลัง มือหนาลากผ่านบั้นท้าย รอยจูบหยุดลงที่บั้นเอว ผมเงยหน้ามองหวังหยวนที่ตอนนี้นอนหอบหายใจอยู่กลางเตียง ผมลุกขึ้นนั่ง เจ้าตัวแสบของผมพลิกตัวมานอนหงาย แววตาหวานฉ่ำเต็มไปด้วยอารมณ์ ผมมองน้องด้วยความรักใคร่ ที่ผมหยุด ไม่ใช่ว่าผมไม่มีความต้องการ แต่ว่า ผมอยากยึดมั่นกับสิ่งที่ผมคิดมาตลอด ผมไม่อยากให้ผ้าขาวผืนนี้แปดเปื้อน


ผมลุกขึ้นจากเตียงเพื่อเดินเข้าไปปลดปล่อยอารมณ์ในห้องน้ำ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ลุก แรงฉุดรั้งน้อย ๆ ที่กระตุกที่ชายเสื้อของผม ผมหันหลังกลับไปตามแรงนั้น เห็นใบหน้าของน้องมีน้ำตารื่น ผมตกใจที่น้องกำลังจะร้องไห้ เลยดึงน้องเข้ามากอดไว้ทั้งตัว


“ถิงเกอจะไปไหน ฮึก อย่าทิ้งผมไปสิ”


“เฮียเปล่านะเสี่ยวหยวน เฮีย เฮียไม่อยากให้เสี่ยวหยวนเจ็บ”


“เกอ เกอไม่อยากให้เสี่ยวหยวนเป็นของเกอหรอ”


“โถ่ เสี่ยวหยวน ทำไมจะไม่อยากล่ะ แต่เฮียจะอดทนไง เพราะเสี่ยวหยวนยังเด็ก”


“คำก็เด็กสองคำก็เด็ก ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ เกอบอกผมแล้ว ว่าจะไม่คิดแทนผม เพราะฉะนั้นตอนนี้เกอก็ถามผมสิ ถามว่าผมเต็มใจไหม”


“เสี่ยวหยวน...


“พอแล้วเกอ ไม่ต้องทนแล้ว ให้ผมเป็นของเกอนะ ให้เสี่ยวหยวนเป็นของเกอ ทำให้ผมมั่นใจสิ ว่าเกอรักผมจริง ๆ”


ผมก้มลงจูบปิดปากเด็กน้อยอย่างทนไม่ไหวกับคำพูดธรรมดา แต่ปลุกเร้าฉีกกระชากสามัญสำนึกส่วนดีในใจของผมไปจนหมดสิ้น  ร่างเล็ก ๆ จูบตอบผมเท่าที่ทำได้ ความไร้เดียงสาทำให้ผมถูกใจ แต่ความกล้าของคนตรงหน้าต่างหากที่ปลุกเร้าผมให้ตื่นขึ้น หวังหยวนเขยิบขึ้นมานั่งบนตักผม โอบรอบคอบดเบียดตัวเองเข้ามาหาผมมากขึ้นจนช่องว่างระหว่างเราลดลง ผมกอดน้องอย่างเต็มใจ ลิ้มชิมรสหวาน ๆ ของร่างตรงหน้าอย่างลึกซึ้งอ่อนโยน ทุกจูบทุกสัมผัสของผมเป็นไปอย่างเนิบช้าแผ่วเบาเพราะต้องการถนอมร่างกายนี้ให้มากที่สุด ทำทุกอย่างอย่างตั้งใจให้เป็นความประทับใจที่สุดสำหรับความรักระหว่างเรา


“เฮียรักหวังหยวน”

“อ๊า ผม ก็รักเกอ”



หวังหยวนหลับไปแล้วด้วยความอ่อนเพลีย ผมทิ้งตัวกอดน้องเอาไว้ในอ้อมแขน และหลับตามไปด้วยหัวใจที่เบิกบาน วันพรุ่งนี้และวันต่อ ๆ ไปของเขาคงมีสีสันมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะนานแค่ไหน รอยยิ้มของคนในอ้อมแขน ก็จะเป็นของเขาตลอดไป













แถม......



7 ปีผ่านไป




“เกอมาถ่ายรูปให้ผมหน่อย”


“เอ้าบัณฑิตทั้งหลายยิ้มหน่อย” 


วันนี้เป็นวันที่เจ้าตัวแสบของผมรับปริญญา จากวันที่เราคุยกันวันนั้น อีกไม่กี่วันถัดมา หยางหยางก็พาอี้เฟิงมารับตัวหวังหยวนกลับไปที่บ้าน ผมบอกเรื่องความสัมพันธ์ของผมกับหวังหยวนให้หยางหยางและครอบครัวของน้องฟัง คุณป้าคุณอา ซึ่งเป็นพ่อแม่ของหวังหยวนอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนจะยื่นเงื่อนไขให้ผมดูแลน้อง และไม่แตะต้องน้องจนกว่าจะจบปริญญาตรี คราวนี้เป็นผมที่อึ้งบ้าง แต่ยังไงผมก็ตั้งใจจะรอน้องอยู่แล้ว (แต่ไม่คิดว่าจะนานขนาดนั้น) จึงตกปากรับคำคุณพ่อคุณแม่ของหวังหยวน


ผมปาดเหงื่อที่ไหลซึมตามกรอบหน้าคม ก่อนกดชัตเตอร์ให้กับหวังหยวนและเพื่อน ๆ ของเขาที่แอ็คท่าถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน คอยดูนะ กลับบ้านไปจะกินให้พุงกางเลย อดมาตั้งหลายปี แถมยังขยันยั่วเสียเหลือเกิน!




         “แล้วนี่เมื่อไหร่งานจะจบบบบบบบบบบบ อยากกลับบ้านไปกินเด็กแล้วววววววว”









 --------------------------------------------- THE END -------------------------------------------

ฮูลาฮูล่า จบแย้ววววววววววววว อิอิอิ ความรักและการรอคอยเป็นสิ่งสำคัญนะคะ เพราะมันรู้สึกมีค่ามาก ที่เราอดทน เฝ้ารอคอยอะไร พอถึงเวลาที่เราได้สิ่งนั้น เราจะทะนุถนอมมันอย่างที่สุดเลยค่ะ

                ความอดทนไม่ได้มีกันง่าย ๆ นะคะ โดยเฉพาะเรื่องความรัก ทั้งความเข้าใจ ความเชื่อใจ อยากให้ทุกคน อดทนกับความรักของตัวเอง ไม่ว่าจะรักใคร รักอะไร รักษามันดีดีนะคะ



 กอดรวบทุกคน ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะคะ ขอคอมเม้นท์ที่ #เกอกินเด็ก เหมือนเดิมค่ะ






            


ความคิดเห็น

  1. โอยยย เด็กมันยั่ว ตบะแตกเลยอิลุง 5555555
    ชอบตอนจบ อยากกลับบ้านไปกินเด็กแล้ววว สมกับชื่อเรื่องจริงๆ 555

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Fic: (AU) ถิงออล : นายพลหื่น #1

Fic: (AU) ถิงออล : นายพลหื่น #3

(AU) SF FIC : TO BE LOVE #เกอกินเด็ก : #2 [ถิงหยวน]