(AU) SF FIC : TO BE LOVE #เกอกินเด็ก : #6 [ถิงหยวน]
FIC : TO BE LOVE #เกอกินเด็ก : #6
Paring : William Chan Wai-Ting X Wang
Yuan
Rate : หนีคดี
แกร๊ง!!
เสียงตะเกียบในมือผมหล่นลงกระทบกับจานจนเกิดเสียงดัง
แต่ถิงเกอ กับ อี้เฟิงเกอคนนั้น ก็ไม่ได้หันมามองผม
ต่างก็ยังคุยหยอกล้อกันเหมือนไม่เจอกันมาเป็นสิบปี แล้วมือถิงเกอที่โอบรอบไหล่อีกฝ่ายคืออะไรล่ะ
ผมหยิบตะเกียบกลับขึ้นมาใหม่
อาหารบนโต๊ะสำหรับผมไม่อร่อยเสียแล้ว รู้สึกอิ่มขึ้นมาดื้อ ๆ
ถิงเกอก็ยังไม่หยุดคุยกับอี้เฟิงเกอ จริง ๆ ชื่อนี้ผมได้ยินมานานแล้ว
ได้ยินมาจากหยางเกอเกอ ที่คอยพูดถึงว่าคนนี้เป็นคนน่ารัก วันนี้ผมเห็นแล้ว
ว่าอีกฝ่ายน่ะน่ารักแค่ไหน ดูเหมือนแมวสวย ๆ ที่ขี้อ้อน
แต่ก็มีความเป็นผู้ใหญ่ในตัว ผมก้มมองตัวเอง กะโปโลขนาดนี้ แบบนี้
ถิงเกอถึงปฎิเสธสินะ ต้องเป็นแบบนี้หรอ ถิงเกอถึงจะชอบ ต้องโตแค่ไหนกัน แล้วที่บอกว่ารักผมเมื่อเช้าคืออะไรล่ะ รักแบบไหน พูดให้ผมดีใจใช่ไหมล่ะ ที่จริงผมมันเป็นแค่น้อง เกอก็แค่เอ็นดูผม แกล้งผมเล่นแค่นั่นเอง
ถิงเกอถึงปฎิเสธสินะ ต้องเป็นแบบนี้หรอ ถิงเกอถึงจะชอบ ต้องโตแค่ไหนกัน แล้วที่บอกว่ารักผมเมื่อเช้าคืออะไรล่ะ รักแบบไหน พูดให้ผมดีใจใช่ไหมล่ะ ที่จริงผมมันเป็นแค่น้อง เกอก็แค่เอ็นดูผม แกล้งผมเล่นแค่นั่นเอง
ผมเงยหน้ามองถิงเกออีกครั้ง เขายังคงกิน
และพูดคุยกับผู้มาใหม่ ไม่ได้สนใจผมอีกแล้ว ผมลุกขึ้นยืน
เสียงเลื่อนเก้าอี้ทำให้ถิงเกอเงยหน้าขึ้นมองผม
“จะไปไหนเสี่ยวหยวน”
“เกอจะต้องสนใจด้วยหรอครับ”
“เฮียเป็นผู้ปกครองเราตอนนี้
ยังไงก็ต้องสนใจสิ”
“เพราะตอนนี้หยางเกอเกอฝากผมไว้กับใช่มั้ย
ถิงเกอถึงจะสนใจผม งั้นก็ช่างเถอะเกอว่าผมจะไปไหน”
“เสี่ยวหยวน
อย่าเกเร”
“ผมไม่มีสิทธิ์เกเรกับถิงเกอหรอก”
......
“เสี่ยวหยวน” ถิงเกอกดเสียงต่ำใส่ผม พูดเสียงดังขึ้นจนรอบข้างหันมอง
“เหว่ยถิงเกอ
อย่าดุน้องสิ” เสียงอี้เฟิงเกอพูดขัดถิงเกอออกมา
แต่แววตานั่นมองตรงมาที่ผมราวกับตำหนิที่ทำให้ถิงเกอต้องเสียงดังกับผม
“ผมจะไปห้องน้ำ”
ผมบอกออกมา ก่อนที่จะเดินออกไปจากโต๊ะโดยไม่หันกลับมามอง
ผมรีบเดินตรงเข้าไปที่ห้องน้ำ ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาให้ได้อายใคร ๆ
ผมล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนโทรหาเพื่อนสนิทของผม รอสายไม่นาน
ปลายทางก็รับสาย
“ว่าไงน้องหยวน
หายไปนานไม่โทรหาเพื่อนฝูงเลยนะ”
“จะ
จุนไค ฮึก มารับ ฮึก ฉันหน่อยที่.....”
“อีก
10 นาที ฉันไปถึง นายรออยู่นั่น” เสียงปลายสายได้ยินเสียงผมก็เปลี่ยนจากคำหยอกล้อเป็นน้ำเสียงจริงจังทันที
เขาได้ยินเสียงเขาสั่งเพื่อนอีกคนให้เคลียร์ห้อง ก่อนสายจะตัดไป
“ฮึก”
ผมเดินเข้าไปที่ห้องน้ำด้านในสุด ปล่อยหยาดน้ำตาไหลออกมาเป็นสาย
ความน้อยใจทุกสิ่งทุกอย่างที่กักเก็บไหลรินออกมาเป็นน้ำตา ผมไม่ควรเลย
ไม่ควรหวังว่าถิงเกอจะชอบผม ในเมื่อคนข้างตัวเขาทั้งดูดีและโตเป็นผู้ใหญ่
ไม่งี่เง่าเป็นเด็ก ๆ แบบผม ผมไม่ควรเลย ไม่ควรรู้สึกดีกับจูบ
ไม่ควรรู้สึกดีกับการเอาใจใส่ของถิงเกอ
ทุกอย่างก็แค่การดูแลเพราะถูกฝากไว้เท่านั้น ไม่ได้มีค่า ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย
ผมออกมาเกือบ 10 นาทีแล้ว โทรศัพท์สั่นจากการโทรเข้าของเพื่อนสนิท ผมรับสาย
เดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วเดินไปหาเพื่อนที่จอดรถมารอรับอยู่ด้านหน้า
“ใครทำอะไรนาย
หวังหยวน ตอบฉันมา” เมื่อผมขึ้นมาที่รถเขาแล้ว
จุนไคก็ถามคำถามผมพร้อมกับออกรถ
“ไม่มี”
“ถ้าไม่มีแล้วนายจะร้องไห้ทำไม
ฉันให้เซียนเก็บบ้านแล้ว ไปถึงค่อยว่ากัน”
“อืม”
ผมออกมาจากห้างได้ราว
20 นาที กว่าจะถึงบ้านจุนไค ทำให้เห็นว่าตอนมารับผมเขารีบแค่ไหนที่ใช้เวลาเพียง 10
นาทีมาหาผม พอผมก้าวลงจากรถ โทรศัพท์ผมก็สั่นอีกครั้ง แต่คราวนี้ มันสั่น
เพราะปลายทางคือคนที่ทำให้ผมร้องไห้
ผมไม่รับสาย
ปล่อยให้โทรศัพท์สั่นอย่างบ้าคลั่งอยู่แบบนั้น ผมเดินใจลอยเข้าไปในบ้านจุนไค
ที่มีเชียนซียืนรออยู่ ผมทิ้งตัวลงที่โซฟากลางห้อง ปล่อยให้น้ำตาไหลเงียบ ๆ
อีกครั้ง ได้ยินเสียงเพื่อนสนิททั้งสองคุยกัน แต่ผมไม่อยากคุย
ผมอยากอยู่เงียบ ๆ แต่ผมไม่อยากกลับไปที่บ้านถิงเกอ ไม่อยากกลับไปเจอแล้ว
ผมไม่อยากมองหน้าเขาให้เจ็บปวดอีก
เสียงโทรศัพท์ยังดังไม่หยุด
มันยังคงมาจากคนเดิม ทำไม เพิ่งจะมาห่วงผมหรือไง ไม่สิ ก็แค่ผมหายไป
เลยเป็นหน้าที่ให้ต้องตามหาสินะ.....
“นายน่าจะรับโทรศัพท์
คนโทรมาน่าจะเป็นห่วงนาย”
“ถ้าฉันบอกว่า
คนที่โทรมาทำให้ฉันร้องไห้ นายจะยังอยากให้ฉันรับโทรศัพท์อีกไหมไค” จุนไคมานั่งข้าง ๆ ผม
พร้อมพูดด้วยความเป็นห่วง แต่ความเป็นห่วงของเขาทำให้ผมเจ็บปวดอีกครั้ง
ทำไมคนที่ผมอยากให้เค้าเป็นห่วงด้วยความจริงใจ เค้าไม่คิดแบบเพื่อนของผมบ้าง
“งั้นฉันรับเอง”
เชียนซีที่เพิ่งทรุดลงข้างตัวผมผุดลุกขึ้นด้วยความโมโห
“เชียน
อย่า”
ผมร้องห้ามเพื่อน ผมไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่
“ฉันรับเอง” ผมหยิบโทรศัพท์ที่ยังสั่นอยู่ กดรับสาย
“ครับ”
“เสี่ยวหยวน อยู่ไหน” เสียงปลายสายมีความร้อนรน
แต่เสียงที่ออกมามีแต่ความกระด้าง ทำไมผมไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นห่วงผมเลย
เขาดูโมโหมากกว่า
“อยู่บ้านเพื่อน”
“ไปไหนทำไมไม่บอก”
“เกอสนใจจริง ๆ หรอ”
“เสี่ยวหยวน เฮียบอกแล้วไงว่าเฮียเป็นผู้ปกครอง
เฮียก็ต้องดูแลเสี่ยวหยวน” เสียงของถิงเกอมีแต่ความอ่อนอกอ่อนใจ
เหมือนผมเป็นเด็กที่พูดจาไม่รู้เรื่อง
“เกอ ถ้าเกอไม่เต็มใจดูแลผม ก็ไม่เป็นไรครับ
อีกไม่กี่วันหยางเกอเกอก็กลับมาแล้ว ผมอยู่บ้านเพื่อนนี่ก็ได้”
“เฮียพูดซักคำหรือยังว่าไม่เต็มใจดูแลเสี่ยวหยวน”
“เกอพูดว่า ‘ต้อง’ ดูแลผม
มันเป็นความจำใจใช่ไหมเกอ”
“อย่าคิดไปเองสิเสี่ยวหยวน นี่อยู่ไหน บอกเฮียนะ
เดี๋ยวเฮียไปรับ” เสียงปลายสายอ่อนลงแล้ว แต่ยังไงผมก็ยังไม่อยากเจอถิงเกออยู่ดี
“ผมอยู่กับเพื่อน เดี๋ยวผมอยากกลับ ผมจะกลับไปเอง”
“ไม่เอาน่า เสี่ยวหยวนของเฮีย กลับบ้านเรานะ
อี้เฟิงกลับไปแล้วล่ะ”
“ก็เรื่องของเกอสิ ใครจะอยู่จะไปเกี่ยวอะไรกับผม”
“ก็เราน้อยใจเฮียไม่ใช่หรอ ที่เฮียเอาแต่สนใจอี้เฟิง”
“ใครน้อยใจเกอ อย่าหลงตัวเองเลย ฮึก ผม ฮึก ไม่ได้สนใจ”
พออีกฝ่ายพูดถึงอี้เฟิงเกอ น้ำตาที่ผมคิดว่ามันแห้งไปแล้วก็ไหลออกมาอีก น้ำเสียงที่ดูอบอุ่นเวลาพูดชื่อคนนั้น
ผมไม่เคยได้ยินเวลาที่ถิงเกอพูดกับผมเลย เวลาเกอพูดกับผม ไม่ดุก็บ่น
“เสี่ยวหยวน อี้เฟิงเขามาถามถึงหยางหยางนะ”
“แล้วยังไงล่ะเกอ เกี่ยวอะไร อยากเจอหยางเกอเกอ
แล้วมาหาถิงเกอทำไม”
“ก็เค้างอนกันอยู่”
“หื้อ” ผมชะงัก ยกมือปาดน้ำตาที่กำลังไหล
ได้ยินเสียงหัวเราะของถิงเกอแว่วมาตามสาย
“กลับบ้านกับเฮียก่อนสิ นะ แล้วจะเล่าให้ฟัง”
“ก็ได้ ผมอยู่บ้านจุนไค ที่ซอย......เกอรู้จักไหม”
ไม่ถึง 20 นาที
รถของถิงเกอก็มาจอดลงที่หน้าบ้านจุนไค ระหว่างที่ผมรอ
ก็ถูกซักฟอกโดยละเอียดจากเพื่อนรักทั้งสอง
ที่ตอนนี้ทำหน้าถมึงทึงหวงผมราวกับหมาหวงลูก แถมยังจับตัวผมสำรวจไปมาจนเห็นรอยรักแดงช้ำตรงไหปลาร้า
ผมผิดเองที่วันนี้ใส่เสื้อคอกว้าง เชียนซีก็ตาดีเหลือเกิน พอเห็นเข้าก็โมโห
จ้ำจี้จ้ำไชบอกให้ผมระมัดระวังตัวเอง แทบจะไม่อยากให้ผมกลับไปกับถิงเกอ
ส่วนจุนไคก็แทบจะถลกเสื้อผ้าผมดูทั้งตัวเพื่อสำรวจว่ายังมีรอยตรงไหนอีก
ผมก็ดิ้นสุดตัวไม่ยอม ยื่นคำขาดว่าถ้ายังอยากรู้จะโกรธจนไม่พูดด้วย
ทั้งสองถึงได้ยอมล่าถอย ไปยืนเป็นหมาหวงลูกอยู่ที่หน้าประตูแทน
“เกอห้ามทำอะไรเสี่ยวหยวนของพวกเราอีก
แล้วก็อย่าทำให้เสี่ยวหยวนร้องได้ด้วย” จุนไคและเชียนซีที่ออกมาส่งพูดกับถิงเกอ
“เฮียไม่ได้ทำอะไรเลย”
“เกอไม่ต้องมาแก้ตัวนะ” จุนไคพูดอย่างหงุดหงิด
แต่ทำอะไรถิงเกอไม่ได้ เพราะผมจะโกรธ และอีกอย่าง ถิงเกอก็ตัวใหญ่กว่ามาก
“พอแล้วน่าไค เชียนด้วย ไปแล้ว ขอบคุณมากนะ”
“บายนะเด็ก ๆ ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนเสี่ยวหยวน”
ถิงเกอบอกลาเพื่อน ๆ ของผม แล้วก้าวขึ้นรถ
“ไปเสี่ยวหยวน กลับบ้านเรากัน”
------------------------------------------------------------------------------
แฮ่ จบไปอีกตอน เด็ก ๆ นี่เอาใจยากพอพอกับผู้หญิงเลยนะคะเนี่ย ฮ่าๆ ตอนหน้าก็ตอนจบแล้วเนาะ ไม่ค้างมากเนาะตอนนี้ แนทเขียนดราม่าไม่เก่งค่ะ แงงงง ไม่ชอบเรื่องดราม่าด้วย งื้อออออ ยังไงขอคอมเม้นท์ ที่ #เกอกินเด็ก นะคะ มาลุ้นกันว่า ตอนหน้า เกอ จะได้กินเด็กซะทีไหม
แฮ่ จบไปอีกตอน เด็ก ๆ นี่เอาใจยากพอพอกับผู้หญิงเลยนะคะเนี่ย ฮ่าๆ ตอนหน้าก็ตอนจบแล้วเนาะ ไม่ค้างมากเนาะตอนนี้ แนทเขียนดราม่าไม่เก่งค่ะ แงงงง ไม่ชอบเรื่องดราม่าด้วย งื้อออออ ยังไงขอคอมเม้นท์ ที่ #เกอกินเด็ก นะคะ มาลุ้นกันว่า ตอนหน้า เกอ จะได้กินเด็กซะทีไหม
ปล. ขอบคุณที่อ่านนะคะ
จุ๊บๆ
โอ๊ย อิเฮียยยยย โว้ว รู้ด้วยนะว่าน้องมันน้อยใจ แล้วยังไม่สนใจน้องมันอีก เดี๊ยะๆ
ตอบลบแล้วอะไรคือจุนไคไม่กล้าเถียงพี่ถิงเพราะตัวใหญ่กว่า 55555555555 โอ๊ย ขำมาก ดูรังแกเด็กยังไงชอบกล กร๊ากกกกกก