SF (AU : หยางเฟิง) : BUS

SF (AU : หยางเฟิง) : BUS







                       ผมว่าการนั่งรถเมล์ไม่ได้เลวร้าย’



                 นานแล้วที่ผมไม่ได้นั่งรถเมล์ ตั้งแต่ผมซื้อรถหลังจากเรียนจบ ผมก็ไม่ได้ใช้บริการขนส่งสาธารณะอีกเลย สมัยเรียน ผมนั่งรถเมล์บ่อย ๆ แต่ตอนนั้นแย่กว่าตอนนี้ ทั้งผู้คนเบียดเสียด เสียงการจราจรและการสนทนาที่วุ่นวาย มารยาทของคนขับรถ และไอร้อนของแดดแผดเผา มันทำให้ผมเบื่อการนั่งรถเมล์ และตัดสินใจซื้อรถส่วนตัวทันทีที่เรียนจบและมีเงินเก็บเพียงพอ



             แต่วันนี้ลูกรักผมเข้าอู่ หลังจากที่เมื่อวานมีปัญหากับเพื่อนร่วมถนนมือใหม่คนหนึ่ง บั้นท้ายลูกชายผมจึงมีร่องรอยประวัติศาสตร์จนยับย่น ส่งเข้าศูนย์แทบไม่ทัน วันนี้จึงจำเป็นต้องใช้บริการรถเมล์สาธารณะ



            ‘ยังดีที่เป็นรถแอร์



              ผมมายืนรอรถเมล์ตั้งแต่เช้า ศึกษาเส้นทางการวิ่งรถดิบดี เนื่องจากไม่ได้ขึ้นรถเมล์มานาน จึงไม่แน่ใจว่ารถสายไหน จะพาเขาไปส่งถึงที่ทำงานได้บ้าง และต้องใช้เวลาเท่าไหร่ จนกระทั่งรถสายที่ผมจำได้ว่าผ่านหน้าออฟฟิศมาเทียบที่ป้าย ผมก้าวขึ้นไป ชำระเงินตรงที่นั่งคนขับ พร้อมรับไอเย็นจากแอร์ปะทะใบหน้า เช้า ๆ แบบนี้รถยังโล่งอยู่มาก อาจเป็นเพราะว่าป้ายรถเมล์ที่ผมรออยู่คือต้นสาย ทำให้ผมสามารถเลือกที่นั่งได้ตามใจชอบ



             ผมเลือกที่นั่งติดริมหน้าต่าง ปรับแอร์ให้กระจายออกไปจากตัวบ้างเมื่อรู้สึกว่ามันเย็นเกินไป ก่อนจะนั่งมองวิวข้างทางไปเรื่อย ๆ ปล่อยใจไปกับต้นไม้ที่ปลูกไว้ข้างทาง มองไปบนถนนเช้า ๆ ที่เริ่มมีคนเดินพลุกพล่าน ผมไม่ได้นั่งมองรอบด้านมานานแล้วสินะ เวลาขับรถเรามองตรงไปข้างหน้า ไม่มีเวลามาพิจารณาข้างทางหรืออะไรทั้งนั้นแหล่ะ ผมหยิบหูฟังออกมาครอบหู เปิดเพลงเบา ๆ เข้ากับบรรยากาศดีดี ก่อนทิ้งสายตาไปสู่ความวุ่นวายข้างทางอีกครั้ง



            ผ่านไปสองสามป้ายรถเมล์ คนเริ่มทยอยขึ้นมาจนเกือบเต็มคัน ข้าง ๆ ผมตอนนี้มีคนมานั่งแล้ว เป็นเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง อายุไม่น่าเกิน 18-19  ปี ดูจากเครื่องแบบน่าจะเรียนมหาวิทยาลัยฝั่งตรงข้ามกับที่ทำงานผม ในมือถือหนังสือสองสามเล่ม ผมสีน้ำตาลยุ่งเหยิงเล็กน้อย แววตากลมโตที่หรี่ปรือพร้อมหลับทำให้ผมอมยิ้ม


             ผมถอนสายตาออกจากเด็กหนุ่ม แล้วกลับไปมองวิวเหมือนเดิม อีกไกล กว่าจะถึง แล้วสักพัก ผมก็รู้สึกหนักที่หัวไหล่ หันกลับไปมองก็เห็นกลุ่มผมสีน้ำตาลพิงอยู่ที่ไหล่ของตัวเอง ผมส่ายหัว ก่อนจะจับศีรษะของหนุ่มน้อยให้นอนดีดีบนเบาะของตัวเอง แต่ผ่านไปสักพัก ก็กลับมาซบที่ไหล่ผมอีกครั้ง ครั้งนี้ ผมปล่อยเลยตามเลย ก็ไม่ได้หนักหนาอะไรนี่นา


             ผมปล่อยให้เพื่อนร่วมทางนอนซบไหล่อยู่อย่างนั้นจนเกือบถึงปลายทาง จึงสะกิดเรียกให้อีกฝ่ายรู้สึกตัว


             “น้องครับ ถึงแล้วนะ” ยังคงเงียบ ผมเอามือตบเบา ๆ ที่แก้มอีกฝ่าย

             “น้องครับ”

             “อืออออ”  เด็กหนุ่มตื่นในที่สุด ผมเห็นอีกฝ่ายกระพริบตา ยกมือขยี้ตาอย่างคนเพิ่งตื่น พอลืมตาได้สติ ก็รีบผละออกจากไหล่ผมอย่างตกใจ



             “อ่า ขอโทษครับพี่ ผมหลับซบพี่ไปนานเท่าไหร่ครับเนี่ย พี่น่าจะปลุกผม”

            “ก็ตั้งแต่แรกแหล่ะ ฮ่าๆ ไม่เป็นไร เห็นเรากำลังหลับสบาย พี่ปลุกเพราะว่ามันจะถึงป้ายแล้ว”

            “ผมขอโทษนะครับพี่ ขอบคุณมากเลย ช่วงนี้ทำโปรเจค ไม่ค่อยได้นอนนะครับ”

            “พักผ่อนบ้างแล้วกัน ป้ายหน้าพี่ต้องลงแล้ว น้องด้วยใช่ไหม”

             “ครับผม ขอบคุณอีกครั้งครับพี่”


             ผมลงจากรถพร้อม ๆ กัน ก่อนที่แยกกันที่ป้ายรถเมล์ ผมอมยิ้ม ก่อนเดินเข้าไปออฟฟิศ ผมยืนยันนะ



            การนั่งรถเมล์ไม่ได้เลวร้าย’




            ก็ดี เพราะผมยังต้องนั่งรถเมล์อีกหลายวันเชียวล่ะ หวังว่าคราวหน้า เพื่อนร่วมทางของผมจะพักผ่อนเพียงพอ






แงงง มาแบบสั้น ๆ นะคะ ฟิลอยากนั่งรถเล่นค่ะ ว่าง ๆ ไปนั่งรถเล่นกันไหม ^^ ชอบไม่ชอบยังไงเมนชั่นมาได้เลยนะคะ <3

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Fic: (AU) ถิงออล : นายพลหื่น #1

Fic: (AU) ถิงออล : นายพลหื่น #3

(AU) SF FIC : TO BE LOVE #เกอกินเด็ก : #2 [ถิงหยวน]