Drunk in love 10 : End or Not

DRUNK IN LOVE
(AU : YangFeng Fiction) : Essorhino
คำเตือน : ฟิคเรื่องนี้ ชายรักชายนะคะ แล้วก็เป็นจินตนาการของผู้แต่งเท่านั่น โปรดใช้วิจารณญาณค่ะ




บทที่ 10 : End or Not?

      




Cr. Picfile:///D:/back%20up%2021032014/private/Drunk/data/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%205%20%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%84%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A5%205%20%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B9%8C%20%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%87%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%2021%20%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7%20%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%94%20%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%99%20!!%20_%20%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88.html






“หยางหยางกำลังนอกใจคุณ”




         อี้เฟิงกำลังโมโหจนใจสั่น มือที่กำแน่นจนเจ็บ ริมฝีปากเม้มแน่นอย่างข่มอารมณ์ เสี้ยววินาทีนั้นเขาเห็นหยางมี่หันหน้ามาแสยะยิ้มให้ รอยยิ้มเย้ยหยันถูกส่งมาให้จนผมอยากจะพุ่งตัวไปกระชากเธอออกจากคุณบาร์ของผม แล้วเอาขวดเหล้าใกล้ ๆ ฟาดหัว หรือเอามีดแทงเธอให้ตายไปเลย จะได้ไม่มารังควาญผมอีก แต่เพราะผมเป็นผู้ชาย และเป็นผู้ชายพอที่จะไม่ทำร้ายเพศแม่ของตัวเอง



               “นายนอกใจแฟนนายแบบนี้ งั้นแฟนของนาย ฉันจะดูแลเอง”  จิ๋นป๋อหรันก้าวเข้าไปพูดกับหยางหยาง แล้วเดินกลับมาโอบไหล่ผมไว้



       ผมปลดแขนที่โอบไหล่ลง แล้วเบี่ยงตัวออกมาอย่างสุภาพ ทั้งที่ใจหงุดหงิดจนอยากซัดหน้าใครสักคน เหตุการณ์ทั้งหมดผ่านมาไม่ถึง 2 นาที แต่ผมรู้สึกเหมือนนานนับชั่วโมง ผมหันหลังกลับอย่างข่มอารมณ์หงุดหงิดและเสียใจ ความรู้สึกหลายอย่างประดังประเดเข้ามาในอก ราวกับทั้งโลกกำลังถล่มทลายลงตรงหน้า ความเชื่อใจของผมพังแบบไม่มีชิ้นดี

            ไหนว่าจะไม่ทำให้ผมเสียใจไง…..
         ไหนใครบอกว่าจะไม่ให้ผมร้องไห้.....
         ทำไมต้องผิดสัญญา!!
    ทำไมต้องทรยศความไว้ใจของผม!!



        ผมเจ็บในอกไปหมด น้ำตาที่บังคับไว้ไหลออกมาเป็นสาย ความเสียใจถาโถมจนต้องทรุดลงกับพื้น หายใจไม่ออก มันอึดอัดไปหมด ผมยกมือกุมอกตัวเองที่เจ็บราวกับถูกใครกระชากออกไป ที่ผมเจ็บมากขนาดนี้เพราะผมรักคุณบาร์มากใช่ไหม คาดหวังกับเขา คิดว่าเขาไม่เหมือนใคร เพราะที่ผ่านมาเขาหนักแน่น เขาจริงใจ ผิดเองที่ไว้ใจ ผิดเองที่รักเขาจนหมดหัวใจ  ผิดที่ไม่เหลือใจเก็บไว้ดูแลตัวเอง เพราะผมไม่คิดว่าสุดท้ายแล้วเขาก็จะเหมือนผู้ชายคนอื่น ๆ ที่พอมีผู้หญิงเข้ามาก็เบนเข็มไป ผมไม่คิดว่าเขาจะทำร้ายผมได้ขนาดนี้



       พอแล้ว พอกันที ผมไม่ควรรักใครอีกแล้ว มันไม่มีที่สำหรับผมใช่ไหม หัวใจผมแหลกไปแล้ว เจ็บจนชาไปหมด ผมกลั้นก้อนสะอื้นที่ขึ้นมาจุกที่ลำคอ ปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้นยืน ผมต้องอยู่ได้ ผมต้องเข้มแข็ง ผมต้องรักตัวเอง
  



       ผมพาตัวเองเดินออกมาจากด้านหลังของบาร์ ในใจคิดแต่จะกลับไปเก็บของของตัวเองออกจากบ้านคุณบาร์ให้หมด คนทรยศแบบนั้นไม่สมควรได้เห็นหน้าผมอีก ไม่แม้แต่จะมีสิทธิ์หยิบจับสิ่งของของผมอีกแล้ว


        “คุณอี้เฟิง”

        ใครเรียกกันล่ะ ผมไม่มีธุระกับใครที่นี่อีกแล้ว

        “คุณอี้เฟิง หยุดก่อน”

        “คุณอี้เฟิง อย่าเพิ่งไปครับ”

       

      เสียงเรียกดังขึ้นพร้อมแรงจับที่แขน ผมชะงักแล้วหันไปมองคนที่เรียกผมไว้ เฉินเสียงนั่นเอง

         “มีอะไรครับ” ผมตอบกลับด้วยเสียงเย็นชาอย่างที่ไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ ผมเกลียดไปหมด คนที่เป็นเพื่อนเขา คนที่ทำร้ายผม เกลียดกระทั่งบาร์นี้ด้วย แต่ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงเจ็บนัก หรือลึก ๆ แล้วผมยังคิดว่าที่ผมเห็นอาจจะไม่ใช่เรื่องจริง ลึก ๆ แล้วผมยังหวังว่าคุณบาร์ไม่ได้หักหลังความเชื่อใจของผม



               “คุณเข้าใจหยางหยางผิด”

        “มีอะไรที่ผมเข้าใจผิดไปกว่าที่ผมเห็นอีกหรอครับ มันยังไม่พอใช่ไหมครับที่ผมต้องเจ็บอีก”

        “ไม่ใช่นะครับ คุณอี้เฟิงใจเย็น ๆ ก่อน เชื่อใจหยางหยางหน่อยเถอะครับ”

              “เชื่อหรอครับ ก็เพราะผมเชื่อใจเขาไง ผมถึงได้เจ็บขนาดนี้”

         “เชื่ออีกสักครั้งเถอะครับ หยางหยางรักคุณมากจริง ๆ มากับผมเถอะครับ”

          “คุณเป็นเพ่ือนเขา คุณก็ต้องเข้าข้างเขา ผมจะเชื่อใครได้อย่างไรกัน”
       
     “ถ้าผมมีหลักฐานพอให้เชื่อ คุณจะเชื่อไหมครับ”




          ผมเดินตามเฉินเสียงขึ้นบันไดข้างร้านที่ติดป้ายว่า ‘ห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปโดยเด็ดขาด’ ด้านในเป็นจอมอนิเตอร์ของร้าน ที่กำลังฉายภาพมุมต่าง ๆ อยู่ เฉินเสียงเดินไปที่คอมพิวเตอร์ควบคุม เลือกมุมที่เป็นทางเดินหน้าห้องน้ำออกมาขยายจอใหญ่ แบ่งออกเป็นสองหน้าจอต่างเวลา โดยด้านซ้ายกำลังกรอไปตอนที่หยางหยางเดินออกมาจากห้องน้ำ ส่วนข้างขวา เป็นเวลาปัจจุบัน ผมเห็นแว๊บ ๆ ว่าตอนนี้มีคุณเจ้าของร้านกำลังยืนประคองคุณบาร์อยู่ ขณะที่หยางมี่ยืนอยู่กับจิ่นป๋อหรัน ผมขมวดคิ้ว ความสงสัยแว๊บผ่านเข้ามาในหัว จึงขอให้เฉินเสียง ขยายภาพฝั่งซ้ายออกให้เต็มหน้าจอ







       ในวีดีโอที่กำลังเปิดฉายภาพหยางหยางกำลังเดินออกจากห้องน้ำ ยกมือขึ้นกุมศีรษะและหยุดพิงกำแพง ก่อนที่หยางมี่จะเดินเข้ามาหา เธอเดินเข้าไปชิดคุณบาร์ ยกมือขึ้นไล้ใบหน้าของเขา ผมเห็นคุณบาร์ชะงัก แล้วดันหยางมี่ออก ก่อนหมุนตัวเดินหนีออกมา แต่หยางมี่ก็ไม่ได้หยุด เธอวิ่งไปดักหน้าหยางหยางอีกครั้ง ผลักหยางหยางให้ชิดกำแพงแล้วเข้าไปชิด เอามือโอบรอบคอ แล้วยื่นหน้าเข้าไปเพื่อจูบ แต่หยางหยางเอามือทั้งสองจับที่เอวเธอไว้แล้วดันออก แต่หยางมี่ก็ไม่ยอม จนกระทั่งผมเห็นตัวเอง เดินเข้ามาเห็นสองคนนั่น และเดินผละจากไป จากนั้นผมก็เห็นคุณเจ้าของร้าน เดินเข้ามาในเฟรม








             “หยุด!

“ฮั่นเกอ” เสียงจิ๋นป๋อหรันดังขึ้น เรียกคนที่มาใหม่อย่างตกตะลึง

               “พอได้แล้วป๋อหรัน นายทำเกินไปแล้ว”

              “เกอ ผมไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”

        
          จางฮั่นไม่ได้สนใจป๋อหรันอีก เขาเดินเข้าไปหาหยางหยางที่ตอนนี้หยางมี่ถอยออกมาจากตัวอีกฝ่ายแล้ว จางฮั่นเดินไปจับตัวหยางหยางพร้อมเรียกเบา ๆ

        “หยางหยาง นี่เกอเอง”

       “เกอ…อี้เฟิง” หยางหยางเงยหน้ามองจางฮั่นอย่างโล่งใจ ก่อนถามหาคนรักของตัวเอง

        “เฉินเสียงจัดการแล้ว นายไหวไหม”

       “มึนไปหมดแล้วครับ ร้อนด้วย” หยางหยางพูดด้วยเสียงแหบแห้ง จางฮั่นมองอีกฝ่ายอย่างสงสารแล้วประคองเองไว้ ก่อนจะหันหน้าไปทางหยางมี่


         “ผมว่าคุณควรออกไปจากที่นี้ แล้วอย่ากลับมาอีกนะครับ ถ้าไม่อยากให้ผมแจ้งตำรวจข้อหาบุกรุก ส่วนนาย ป๋อหรัน พรุ่งนี้เรามีเรื่องต้องคุยกัน”


        


    จางฮั่นพาหยางหยางขึ้นมาที่ห้องพักด้านบน ในขณะที่อี้เฟิงซึ่งเห็นเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็ขอร้องให้เฉินเสียงพาตัวเองไปหาหยางหยางเช่นกัน


       “คุณบาร์” อี้เฟิงถลันเข้าไปหาหยางหยางทันทีที่เปิดประตู เห็นคุณเจ้าของร้านกำลังให้หยางหยางดื่มน้ำเย็น ๆ  คลายความร้อน พร้อม ๆ กับที่เอาผ้าให้อีกฝ่ายเช็ดตัว พอเห็นเขา จางฮั่นก็ลุกขึ้น แล้วพาหยางหยางเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะออกมาแล้วเดินมาหาเขา


              “คุณโอเคแล้วใช่ไหม”
     
              “ครับ ผมเข้าใจแล้ว ผมขอโทษนะครับคุณเจ้าของร้าน ที่ทำให้วุ่นวายไปหมด”
       
       “ไม่เป็นไร แค่คุณเข้าใจหยางหยาง คอยอยู่ข้าง ๆ เขา แล้วเชื่อใจเขาต่อไปก็พอ ตอนนี้เขาดีขึ้นแล้ว ยาน่าจะไม่แรงมาก ผมปฐมพยาบาลเบื้องต้นไปบ้างแล้วครับ ยังไงดูแลเขาต่อแล้วกันนะครับ ผมกับเฉินเสียงขอตัวไปดูแลร้านต่อ”
       
       “ขอบคุณมากครับ แล้วก็ขอโทษด้วยจริง ๆ”





            ผมก้าวตามคุณบาร์เข้าไปในห้องน้ำ เห็นอีกฝ่ายกำลังยืนให้สายน้ำไหลผ่านร่างกายโดยที่เสื้อผ้ายังอยู่บนตัว ท่าทางมีสติมากแล้ว ผมรู้สึกขอบคุณเฉินเสียง และคุณเจ้าของร้าน ที่ทำให้หัวใจผมกลับมา โลกของผมกลับมาสดใส หลังจากที่ผมรู้ความจริง แล้วก็โกรธตัวเองเหลือเกิน ที่ตีค่าน้ำใจของคนรักของผมไว้ต่ำเกินไป ดูถูกความเชื่อใจของตัวเอง และดูถูกผู้ชายที่ดีที่สุดตรงหน้าของผม




          “คุณบาร์”
         “อี้เฟิง”





                ผมเรียกคุณบาร์ ซึ่งอีกฝ่ายก็หันกลับมามองผมอย่างตะลึง

            
          “อี้เฟิงไม่โกรธผมหรอ อย่าเข้ามาเลยครับ เดี๋ยวผมจะทนไม่ไหว”
         
                    “อี้เฟิงไม่โกรธคุณบาร์หรอก แล้วก็ ไม่ต้องทนแล้วล่ะ”
      


          “อี้เฟิง

       

         หยางหยางเดินออกจากสายน้ำ เข้ามาหาอี้เฟิงที่ยังยืนอยู่ตรงกรอบประตูห้องน้ำ ก่อนจะก้มลงจูบอีกฝ่ายซึ่งเงยหน้ารออยู่แล้ว อี้เฟิงยกมือโอบรอบคอหยางหยาง ก่อนที่จะถอนจูบออกมาเพื่อปลดเปลื้องสิ่งกีดขวางออกจนหมด



                  หยางหยางดันอี้เฟิงออกมาที่ห้องด้านนอก ทิ้งตัวลงตรงโซฟา ก่อนที่จะลากคนตัวเล็กกว่าลงบนตัก กดจูบอีกครั้ง บดเบียดริมฝีปาก แลกลิ้นพัวพันกันด้วยความรัก ความเชื่อใจ มือลูบไล้ไปทั่วตัว อี้เฟิงแหงนเงยใบหน้าให้อีกฝ่ายซุกไซ้ได้ถนัด หยางหยางจูบไล่ไปทุกส่วน จูบย้ำ ๆ อยู่ตรงตำแหน่งหัวใจอี้เฟิง ราวกับตอกย้ำให้รู้ว่าเขารักคนตรงหน้ามากขนาดไหน มือแกร่งไล่ไปตามสันหลัง บีบเคล้นที่บั้นท้ายหนันแน่น สอดนิ้วเรียวยาวเข้าไปที่ช่องทางสีหวาน เสียงครวญครางของคนบนร่าง เป็นยากระตุ้นยิ่งกว่าฤทธิ์ยาในร่างกายจนทนไม่ไหว หยางหยางถอนนิ้วออกมาแล้ว สอดแทรกตัวตนของตัวเองเข้าไปในตัวอี้เฟิงอย่างแนบชิด ก่อนจะขยับกายสอดแทรกเป็นจังหวะอย่างอ่อนโยน




          “อาาา คุณบาร์”
          “อึก อี้เฟิง”




           “คุณบาร์ อา อี้เฟิง อื้อ รัก รักคุณบาร์”
           “รัก รักอี้เฟิง”




               เสียงบอกรักดังก้อง สลับกับเสียงคราญครางที่ดังอยู่ค่อนคืนก่อนจะเงียบไป ทั้งสองคนตระกองกอดกันหลับไปอย่างสบายใจ















            “ฮั่นเกอเรียกผม” จิ่นป๋อหรันเดินเข้ามาที่ห้องทำงานของจางฮั่นในเย็นวันถัดมา

       “ใช่ ไม่ใช่ว่านายลืม ว่านายทำเรื่องอะไรไว้” จางฮั่นที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่กล่าวออกมาทันที

            “ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะเกอ”


        “นายแน่ใจนะ นายคงจำไม่ได้ว่าที่ร้านมีกล้องวงจรปิด”
       
     “เกอ”

   “ครั้งที่แล้วที่นายสับเปลี่ยนเหล้าของหยางหยางฉันไม่เอาเรื่องก็เพราะว่าเฉินเสียงขอไว้ เพราะไม่อยากให้หยางหยางหมดศรัทธาในตัวนาย เรื่องคราวนี้ที่นายผสมยาไว้กับเหล้าให้หยางหยางกิน คงยอมให้ผ่านไปง่าย ๆ ไม่ได้ นายทำเกินไป”

       “เกอ มันสมควรได้รับแล้ว เกอไม่ยุติธรรมเลย เกอมีบาร์ให้หยางหยาง ในขณะที่ผมมาก่อนมัน”

       “นายไม่เหมาะกับบาร์เดี่ยว ฉันเคยบอกนายไปแล้วจิงเป่า”

       “ผมไม่เข้าใจ ทำไมผมถึงไม่เหมาะ ผมก็ชงเหล้าได้ไม่น้อยหน้ามัน หล่อไม่ได้ด้วยกว่า มันดีกว่าตรงไหน”

       “นายไม่ช่างสังเกตุไง นายไม่ได้สังเกตุความรู้สึกของลูกค้า ฉันพูดไปนายก็ไม่เข้าใจ แล้วอีกอย่าง นายไม่ต้องเข้าใจแล้ว เพราะว่านายไม่ต้องมาทำงานอีกต่อไป”

            “อะไรนะเกอ เกอพูดว่าอะไรนะ”

            “ฉันบอกว่า ฉันไล่นายออก”

           “ไม่ เกอ ผมไม่ผิด ผมไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”

       “ถ้านายยืนกรานแบบนั้นฉันจะต้องแจ้งความ นายใช้ยากล่อมประสาท แถมยังมีจุดประสงค์ให้ร้านของฉันเสียชื่อเสียง ออกไปซะ ฉันจะไม่เอาเรื่อง แล้วก็จะไม่ป่าวประกาศให้ร้านเพื่อน ๆ ของฉันรู้ว่านายทำอะไรไว้ ฉันยังใจดีเหลือลู่ทางทำมาหากินไว้ให้นาย แต่ถ้านายทำอะไรมากไปกว่านี้ ฉันไม่รับรองแล้วนะ ฉันทำแค่นี้เพราะยังเห็นว่านายเป็นน้อง”

       “โถ่โว๊ย!” เมื่อทำอะไรไม่ได้ จิ่นป๋อหรันก็ลุกขึ้นเตะเก้าอี้อย่างแรงแล้วหุนหันออกจากห้องไป






       เมื่อเหตุการณ์สงบลง หยางหยางก็ออกมาจากหลังห้องทำงานของจางฮั่น ก่อนจะทรุดตัวลงที่โซฟาตัวใหญ่ด้านหน้า



         “ผมไม่คิดเลยว่าเฮียป๋อจะคิดแบบนี้กับผม ฮั่นเกอ ยุบบาร์ของผมเถอะ มันทำให้คนอื่น ๆ ไม่พอใจจริง ๆ”

         “เกอไม่คิดแบบนั้น นายเหมาะกับบาร์นั่นแล้ว และบาร์ของนายเป็นจุดเด่นของร้าน ถ้ารักร้านนี้ ก็ควรคิดว่าอะไรคือสิ่งที่ดีสำหรับร้าน เข้าใจไหม”

            “ครับ เกอ”

         “แล้วเคลียร์กับแฟนแล้วใช่ไหม”

          “ครับเกอ ขอบคุณมาก ๆ เลยนะครับ”

            “ไปขอบคุณอาเสียงเถอะ”
      
      “ครับเกอ ขอบคุณมากจริง ๆ ผมไปทำงานก่อนนะครับ”
       
       “อืม ตามสบาย”






            ผมเดินลงไปที่บาร์ หลังจากที่ตอนเช้าผมตื่นขึ้นมา แล้วคุยกับอี้เฟิงจนหมดเปลือก เล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผมพอจะจำได้ ส่วนอี้เฟิงได้แต่กอดผมไว้ ขอโทษผมที่คิดว่าผมทรยศต่อความเชื่อใจของเขา ผมไม่โกรธเลยสักนิด เป็นผมคงทนไม่ได้ที่เห็นแฟนของผมกอดอยู่กับคนอื่น แถมยังเป็นคนที่เกลียดกันมาก ๆ เสียด้วย จากนั้นจึงพากันกลับไปที่บ้าน นอนพักจนบ่าย แล้วผมก็ออกมาทำงานต่อ ก่อนที่จะถูกฮั่นเกอเรียกให้ไปหลบอยู่หลังห้องทำงานจนได้ยินเรื่องราวทั้งหมด


           ผมเดินมาถึงบาร์ก็เจอเฉินเสียงนั่งอยู่ก่อนแล้วกับลูกค้าคนพิเศษของผม อี้เฟิงนั่งอยู่ที่บาร์ กำลังคุยกับเฉินเสียงอย่างออกรส





            “นินทาอะไรกันครับ”

            “หยางหยาง” “อ้าว คุณบาร์” เฉินเสียง กับ อี้เฟิง หันมาหาผมพร้อมกันหลังจากได้ยินคำทักทาย ผมตอบรับทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินเข้าไปในบาร์ หยิบแก้วออกมา 2 ใบวางบนบาร์ แล้วหันไปคว้า  Smirnoff No. 21 Vodka 30 มล., สไปร์ท 45 มล., โซดา 45 มล. มาผสมเข้าด้วยกัน ก่อนจะใส่น้ำแข็งในแก้วทรงสูง และเทส่วนผสมทั้งหมดลงในแก้ว บีบมะนาว คนให้เข้ากัน และตกแต่งด้วยมะนาวฝาน วางลงตรงหน้าลูกค้าทั้งสองคนของผม      



“อ่ะ Smirnoff Triple S ครับ คุณลูกค้าทั้งสอง”

“วันนี้มาสบาย ๆ เลยนะหยางหยาง อารมณ์ดีแล้วใช่ไหม” เฉินเสียงรับแก้วคอกเทลไปจิบพร้อมเอ่ยทัก

“ใช่ ขอบใจนายมากนะเฉินเสียง”

“เรื่องเล็ก นายเป็นเพื่อนฉัน”

“ผมก็ต้องขอบคุณคุณเหมือนกันนะครับคุณเฉินเสียง” อี้เฟิงที่จิบคอกเทลไปแล้วเช่นกันหันไปหาเฉินเสียง

“ไม่เป็นไรครับคุณอี้เฟิง แฟนเพื่อนก็คือเพื่อนผมเหมือนกัน”

“ดีจังที่คุณบาร์มีเพื่อนที่ดีแบบคุณ”

“แหม อย่ามาชมกันเองสิครับ เขินนะเนี่ย เดี๋ยวผมต้องไปร้องเพลงแล้วล่ะ ขอตัวนะ ไปละ หยางหยาง”





หลังจากที่เฉินเสียงเดินจากไป ผมหันมามองคนรักของผมที่นั่งจิบคอกเทลอยู่ตรงหน้าด้วยความสุขใจ ผมสัญญากับตัวเอง ผมจะไม่ทำให้คนรักของผมเสียน้ำตาเด็ดขาด ถ้าจะมีน้ำตา ก็ต้องเป็นน้ำตาแห่งความสุขเท่านั่น




“ขอบคุณนะคุณบาร์ ขอบคุณที่อยู่กับผม ขอบคุณที่คุณมีค่าพอสำหรับความเชื่อใจของผม ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรเข้ามาอีก ผมจะเชื่อใจคุณ”




       “ผมรักคุณครับ อี้เฟิง”
       “ผมก็รักคุณ คุณบาร์”





---------------------------------------------------------
จบแล้วค่าาาาาาาาาาาา เย้ รอนานเหลือเกินนนนนน คนเขียนก็รอ คนอ่านไม่รู้รอไหม ฮ่าๆ ความรักของคนเราอาจจะไม่ได้เริ่มต้นด้วยดี หรือจบลงง่าย ๆ นะคะ ขอแค่ให้ทั้งคู่ รักกัน เชื่อใจกัน มีอะไรให้พูดคุยกัน อย่ามัวถือทิฐิ คิดไปเอง ช่วยกันประคับประคองกันไป วันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรก็สู้ไปด้วยกัน นี่ล่ะค่ะ ความรักที่อยากให้อยู่ในหัวใจของทุกคน การที่จะใช้ชีวิตต่อไปด้วยกัน แค่รัก ไม่พอนะคะ ^^ จุฟๆ




-------------- ขอบคุณที่ติดตามด้วยค่ะ----------------------





ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Fic: (AU) ถิงออล : นายพลหื่น #1

(AU) SF FIC : TO BE LOVE #เกอกินเด็ก : #2 [ถิงหยวน]

Fic: (AU) ถิงออล : นายพลหื่น #3