(AU) SF FIC : TO BE LOVE #เกอกินเด็ก : #5 [ถิงหยวน]

FIC : TO BE LOVE #เกอกินเด็ก : #5
Paring : William Chan Wai-Ting X Wang Yuan
Rate : หนีคดี






            “ผมจะดูเรื่องนี้”

            “แต่เฮียอยากดูเรื่องนี้”

            “เกอ ผมจะดูเรื่องนี้ ต้องเรื่องนี้ไม่งั้นผมไม่ดู”

            “แต่เฮียเป็นคนจ่ายเงินนะ เฮียต้องได้เลือกสิ”

            “ผมอยากดูเรื่องนี้ นะครับ นะเกอ”



           
            โอเคครับ ผมแพ้ คำว่า นะครับ คำเดียวผมจึงต้องยอมให้เด็กแสบเลือกหนังแอนิเมชั่นที่อยากดู แทนหนังแอ็คชั่นไซไฟที่ผมอยากดู เราเถียงกันมาตั้งแต่ลงจากรถ เข้ามาในห้างก็แล้ว หน้าโรงหนังก็แล้ว แต่สุดท้ายผมก็ต้องยอมเจ้าเด็กตรงหน้าจนได้เพราะคำคำเดียว


            “เกอเกอ ผมอยากกินป็อปคอร์นด้วย”

            “เอาสิ”



            ไม่ว่ายังไงผมก็แพ้ลูกอ้อนของเด็กน้อยตรงหน้าอยู่แล้ว ไม่ว่าจะขออะไร แค่เรียก เกอเกอ ผมก็แทบถวายให้หมดทั้งตัว แย่จริง ๆ เลยนะ เมื่อถึงเวลาที่ต้องเข้าโรงหนัง เจ้าเด็กแสบก็กอดแขนข้างหนึ่ง กึ่งลากกึ่งจูงผมเข้าไปในโรงหนังอย่างตื่นเต้น ส่วนมืออีกข้างถือป็อปคอร์นที่กินไปแล้ว ¼ เข้าโรงหนังไปด้วย จริง ๆ แล้วเสี่ยวหยวนแทบจะกินมันจนหมดไปครึ่งก่อนเข้าโรงหนังอยู่แล้วถ้าผมไม่ห้ามไว้เสียก่อน เด็กกำลังโตจริง ๆ



            ภายในโรงหนังมีแสงไฟสลัวจากริมทางเดินอยู่ก่อนแล้ว เสี่ยวหยวนเดินนำผมไปยังแถวที่เลือกไว้ เป็นที่นั่งแถวบนสุดซึ่งเป็นโซฟา และมีผ้าห่มบริการ พอหนังเริ่มฉาย คนข้าง ๆ ผมก็ใจจดใจจ่อกับหนังบนจอ แต่มือก็ยังไม่หยุดหยิบป็อปคอร์นเข้าปาก พอผมแกล้งเอามือล้วงเข้าไปในถังบ้าง กลับเอามือตีผม แล้วก็ย้ายป็อปคอร์นไปฝั่งตัวเอง คนอะไรขี้หวงชะมัด ผมจึงหันไปสนใจหนังบนจอบ้าง ซึ่งก็ถือว่าเป็นหนังที่สนุกดีเหมือนกัน ระหว่างที่ดูหนัง ไม่มีบทสนทนาใดใดระหว่างเราอีก ต่างคนต่างตั้งใจดูหนังจนจบ ซึ่งก็มีเพียงแต่ไออุ่นตัวของกันและกันที่ลอยวนอยู่ระหว่างเรา ศีรษะที่ซบอยู่ที่ไหล่ กับมือเล็ก ๆ ที่สอดเข้ามาผสานกับมือของผมไว้จนชื้นเหงื่อ แต่เราก็ไม่ได้ปล่อยมือออกจากกันเลย



            เราสองคนออกจากโรงหนังเป็นคู่สุดท้าย เนื่องจากนั่งจนหนังจบเครดิต หนังสนุกจนผมไม่ได้รู้สึกเสียดายเงินเลยสักนิด ออกมายังคุยจ้อเรื่องหนังกับเจ้าตัวแสบอยู่อีกพักใหญ่ ก่อนจะมองนาฬิกาแล้วก็ชวนคนตัวเล็กไปหาอะไรกินเสียที



            “จะกินชาบู”

            “เฮียอยากกินข้าว”

            “นะครับเกอเกอ ชาบูนะ”

            “นำไปสิ”



            ครับ อีกครั้งที่ผมพ่ายแพ้ ผมเดินตามเจ้าตัวแสบเข้าไปในร้านชาบูเจ้าดัง ก่อนที่คนตัวเล็กจะสั่งโน่นสั่งนี่มาจนเต็มโต๊ะ จนผมแอบกลัวว่าจะกินไม่หมดจริง ๆ แต่ทำไมไม่เห็นมีผักเลยล่ะ



            “เสี่ยวหยวน ทำไมมีแต่เนื้อ ไม่เห็นมีผัก”

            “ก็ผมไม่กิน ผมจะสั่งมาทำไมล่ะเกอ”

            “ไม่สั่งให้เฮียกินเลยหรือไง”

            “เกออยากกิน เกอก็สั่งเองสิ จะว่าไปก็แย่จัง เกอแก่แล้วคงเคี้ยวเนื้อ ๆ มากไม่ไหว”

            “เสี่ยวหยวน!!!



            นั่นไงครับ พอได้ของที่อยากกิน ตามใจหน่อย กลับมากวนประสาทอีกแล้ว ผมเรียกบริกร ขอเมนูพร้อมจะสั่งอาหารเพิ่มเติม แต่พอหันกลับมาอีกที หมูบางส่วนก็หายเข้ากระเพาะเด็กน้อยไปเสียแล้ว



            “กินไม่รอเฮียอีกนะเสี่ยวหยวน”

            “ก็เกอช้า อีกอย่างเกอเคี้ยวไม่ไหวหรอก ฮ่าๆ”

            “เดี๋ยวจับตีเลยนี่เสี่ยวหยวน!

         “เกอไม่กล้าหรอก อีกอย่าง เกอก็วิ่งมาตีผมไม่ทันหรอก แก่แล้วก็งี้ ฮ่าๆ”

            “กินไปเลยนะเสี่ยวหยวน เฮียไม่พูดด้วยแล้ว”

            “โอ๋ๆ เกออออ อย่างอนน่า แก่แล้วงอนมากเดี๋ยวหัวล้านนะ”

            “เสี่ยวหยวน!!

            “อาหารที่สั่งได้แล้วครับ”



            หลังจากที่เถียงกันไปเถียงกันมา จนอาหารที่ผมสั่งเพิ่มก็มาเสิร์ฟ ผมเทผักลงในหม้อ เสี่ยวหยวนทำหน้ามู่ทู่เพราะไม่ชอบกิน เขาจึง หยิบหมู หยิบปลา หยิบเกี๊ยว เทใส่หม้อ ก่อนช้อน ๆ เอากุ้งที่เทไว้ก่อนหน้านี้ใส่ชามของตัวเอง ราดน้ำจิ้มทานสบายใจเฉิบ เขาจึงแกล้งคีบกุ้งที่อยู่ในชามเสี่ยวหยวนใส่ปากบ้าง



            “เกอ อย่ามาแย่งผมกินสิ”

            “ทีเมื่อเช้าเสี่ยวหยวนยังแย่งนมเฮียกินเลย”

            “กะ ก็นั่น กะ เกอ ก็กินไปหมดแล้วนี่นา อันนี้ของผม อย่ามาแย่งนะ”

            “หึหึ”




            ผมยิ้ม ไม่ต่อล้อต่อเถียง แล้วเอาไข่เทลงไปในหม้อ ก่อนลวกหมูพอสุกแล้วคีบไปคืนเจ้าเด็กแสบ เราสองคนผลัดกันลวกนั่นลวกนี่ให้อีกคน จนต้องสั่งอาหารเพิ่มอีก มื้อนี้เป็นมือที่ผมรู้สึกได้ว่าเราทานกันได้เยอะกว่าปกติ



            “นี่ นั่งด้วยได้ไหม”




            เสียงใครบางคนดังขึ้นเหนือศรีษะของผม พอผมเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายก็ต้องวางตะเกียบ ผุดลุกเข้าไปกอดอีกฝ่ายทันที ซึ่งคนมาใหม่ก็ไม่ได้ตกใจอะไร ยกมือกอดตอบผมอย่างดีใจเพราะไม่ได้เจอกันนานเหลือเกิน



            “ไม่เจอกันนานเลย คิดถึง” คนตรงหน้าผมทักทายพลางโอบไหล่ไว้อย่างสนิทสนม


            “คิดถึงเหมือนกัน วันนี้ไม่มีงานหรอ”


            “ได้หยุด เลยออกมาหาอะไรกิน ไม่คิดว่าจะเจอ บังเอิญจังนะ แล้วนี่ใครล่ะ”



            “อ๋อ ลูกพี่ลูกน้องหยางหยางไง ที่เคยเล่าให้ฟังน่ะ”



         “คนนี่นี่เอง” ผมนั่งลงที่เดิมแล้วขยับให้อีกคนนั่งข้าง ๆ ผมมองไปที่เสี่ยวหยวนที่ตอนนี้หยุดกิน และกำลังมองผมเขม็ง



            “จะแนะนำให้รู้จักแล้วกันนะ นี่เสี่ยวหยวน หวังหยวน” ผมชี้ไปที่เด็กน้อยที่นั่งฝั่งตรงข้าม ก่อนจะหันหน้าไปหาเสี่ยวหยวน และเอ่ยแนะนำคนข้างกาย






            “เสี่ยวหยวน นี่อี้เฟิง หลี่อี้เฟิง”



                !!!







------------------------------------------------TBC----------------------------------------------------------------------

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ตัดจบแบบนี้จะโดนตบไหมคะเนี่ยยยยยยยยย ตอนนี้เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ แต่งไปหิวไป งานก็เข้า แอบอู้มาได้เป็นพักๆ แฮ่ ยังไงก็ขอ Feed back ที่ #เกอกินเด็ก นะคะ จุ๊บ ๆ





ความคิดเห็น

  1. หมั่นไส้อิเฮียแรง แพ้เด็กมากอะไรมาก ยอมทุกอย่างเลยจ้า
    อ่านแล้วหิว อยากกินเอ็มเค 55555
    มาดามมาได้ไง เดี๋ยวจิมีดราม่าแน่นแน่

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Fic: (AU) ถิงออล : นายพลหื่น #1

(AU) SF FIC : TO BE LOVE #เกอกินเด็ก : #2 [ถิงหยวน]

Fic: (AU) ถิงออล : นายพลหื่น #3