#เอยูเลิฟซีน #หยางเฟิง Special request by จำปา : ในลิฟท์

#เอยูเลิฟซีน #หยางเฟิง Special request by จำปา : ในลิฟท์




         
“ตึ๊ง!”





         หลีอี้เฟิงละมือจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เริ่มก้าวเดินเข้าไปในลิฟท์ที่เปิดรออยู่อย่างช้า ๆ ไม่ใช่เขาไม่รีบ แต่เพราะการเดินแต่ละก้าวทำให้อะไรบางอย่างขยับเคลื่อนตัวไปตามจังหวะการ
เดิน ยิ่งก้าวยิ่งเสียดสี





         เขาได้รับคำสั่งจาก ท่านประธานเจ้าของกิจการอสังหาริมทรัพย์ที่ร่ำรวยที่สุดในแผ่นดินใหญ่ ตึกหรูหราแสนทันสมัยไฮโซโอ่อ่านี้ก็เป็นเพียงหนึ่งในอีกหลายร้อยตึกของเขาคนนั้น คำสั่งที่ทำให้เขากระอักกระอ่วนใจ แต่ไม่สามารถปฏิเสธได้เนื่องจากหน้าที่การงานและเงินเดือนสูงลิบลิ่วรองรับ ตำแหน่งที่มีการแข่งขันสูงที่สุดอย่างเลขาส่วนตัวท่านประธาน พ่วงอีกตำแหน่งลับ ๆ ที่ไม่อาจปริปากบอกใครได้



         “ใส่ของที่ฉันเตรียมไว้ แล้วขึ้นลิฟท์มาหาฉันเดี๋ยวนี้ รู้ใช่ไหม ว่าใช้งานยังไง”




         ของที่อีกฝ่ายว่า ถูกวางเด่นเป็นสง่าอยู่บนโต๊ะทำงานของเขาในรูปแบบกล่องของขวัญงดงาม แต่เปิดออกมาแล้วอี้เฟิงก็ตกใจจนมือไม้สั่น ปิดกล่องลงอย่างขวัญหนีเมื่อคิดว่าอาจจะมีใครมาเห็นของในกล่องเข้า





         ของขวัญชิ้นเล็ก ๆ ที่เรียกว่า ‘ไวเบรเตอร์




         ทันทีที่เห็นของขวัญ เขาก็รีบกดโทรศัพท์ไปหาเจ้าของคำสั่ง แต่อีกฝ่ายไม่รับสาย ตอบกลับด้วยข้อความสั้น ๆ ว่าให้ทำตามสั่งอย่าเกเร ก่อนที่จะโดนลงโทษที่ขัดคำสั่งเอาแต่ใจของท่านประธานใหญ่!



         หลีอี้เฟิงคิดถึงการลงโทษ ‘ครั้งก่อนก็ตัวสั่น บอกตัวเองว่าอย่าไปขัดใจผู้มีอิทธิพลและทำตามคำสั่งแต่โดยดีดีกว่า จึงฉวยของขวัญหายเข้าไปในห้องน้ำอยู่นานสองนานกว่าจะทำใจออกมาได้ สองขาค่อย ๆ ก้าวเดินไปที่ลิฟท์











         หยางหยางนั่งยิ้มมุมปากอยู่ที่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ แววตาคมมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่กำลังแสดงภาพคนที่ได้รับคำสั่งจากเขากำลังยืนเบียดเสียดกับพนักงานคนอื่น ๆ  อยู่ลิฟท์ มือเรียว ๆ เอื้อมมือไปหยิบรีโมทของขวัญที่เขามอบให้อีกฝ่าย พลางนึกถึงตอนที่ได้มันมา




         “คุณหยางหยางครับ รุ่นนี้เป็นไวเบรเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุดครับ รีโมทของมันสามารถบังคับ ปรับระดับการสั่นได้ระยะไกลราวหนึ่งกิโลเมตรเชียวนะครับ แถมยังเงียบ ไม่่ส่งเสียงให้รำคาญเลยละครับ” เสียงเจ้าของร้านค้าของเล่นผู้ใหญ่ที่เขาใช้บริการเป็นประจำแนะนำกึ่งเสนอขาย เขาพยักหน้าตกลงซื้อ และสั่งให้ห่อเจ้าของเล่นชิ้นนี้แยกต่างหากจากชิ้นอื่น ๆ ที่เขาเลือกไว้ก่อนหน้า แล้วสั่งให้ส่งเจ้ารุ่นใหม่ที่ว่าไปให้ คนรัก(ลับ ๆ )’ ของเขา




         หยางหยางมองรีโมทในมือ สลับกับจอมอนิเตอร์อีกครั้ง ก่อนเริ่มปรับระดับความสั่นของเจ้าไวเบรเตอร์จิ๋วที่เขารู้ว่าตอนนี้มันอยู่ในตัวของหลีอี้เฟิง เพราะอีกฝ่ายที่เขาเห็นผ่านจอกำลังสะดุ้ง ตัวสั่นน้อย ๆ และยกมือขึ้นปิดปาก





         หลีอี้เฟิงกำลังอยากจะบ้า เมื่ออยู่ ๆ ของขวัญชิ้นเล็กที่ได้รับก็สั่นขึ้นมา ความเสียววูบแว๊บเข้ามาในหัวจนสมองขาวโพลน บรรยากาศในลิฟท์ร้อนอบอ้าวขึ้นมาอย่างกระทันหัน เลขาหน้าหวานยกมือปิดปากกลั้นเสียงคราง มืออีกข้างต้องเลื่อนเอกสารมาบังส่วนหน้าของลำตัวที่แข็งขืนขึ้น





อีก 2 ชั้นเขาก็จะถึงชั้นของผู้บริหาร ซึ่งต้องเปลี่ยนลิฟท์ เป็นลิฟท์ส่วนตัวเพื่อขึ้นไปชั้นสูงสุดของห้องประธาน  ลิฟท์หยุดลงที่ชั้นถัดไป คนในลิฟท์เดินออกไปหลายคน จนเหลือที่ว่าง พี่สาวคนที่เดินเข้ามาใหม่จึงเห็นอี้เฟิงได้ถนัดตา





         “อี้เฟิง เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าแดง เหงื่อออกเยอะแบบนี้ล่ะ”


         “อะ พี่จิ้ง ผะ ผมไม่เป็นไรครับ แค่รู้สึก อึก ร้อน ๆ ”


         “อ้อ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”




         “ครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ” ผมเอ่ยออกมาเมื่อลิฟท์มาหยุดอยู่ที่ชั้นที่ผมต้องการ ผมเดินออกมาจากลิฟท์ ก่อนจะรับรู้ถึงระดับความสั่นสะเทือนที่มากขึ้นจนผมเสียววูบจนขาสั่น เกือบจะยืนไม่อยู่ต้องยกมือขึ้นท้าวกับผนัง ผมค่อย ๆ เดินไปที่ลิฟท์ของผู้บริหาร ก่อนจะกดลิฟท์แล้วรอคอยอย่างอดทนกับความเสียวซ่านในตัว






         “ตึ๊ง” เสียงสวรรค์ อี้เฟิงคิด ก่อนจะก้าวขาเข้าไปในลิฟท์ที่เปิดออกช้า ๆ เขามองเห็นข้างในลิฟท์มีผู้โดยสารอยู่ก่อนแล้ว ผู้โดยสารคนที่สั่งให้เขาขึ้นไปหา






         ท่านประธานหยางหยาง







         หยางหยางที่ก่อนหน้านี้นั่งมองใบหน้าหวาน ๆ แดงเรื่อด้วยความเสียวซ่าน ผ่านจอคอมพิวเตอร์ในห้องก็ทนไม่ไหว สั่งให้หยุดและปิดการถ่ายภาพวงจรปิดในลิฟท์ผู้บริหารทั้งหมดทันทีก่อนที่จะลงลิฟท์ไปเพื่อรอรับเลขาของเขา…….





        

“ตึ๊ง!” เสียงประตูลิฟท์ปิดลง ลิฟท์เคลื่อนตัวช้า ๆ ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อร่างสูงของประธานใหญ่เอื้อมมือไปกดปุ่มหยุดฉุกเฉิน หยางหยางกระชากตัวอี้เฟิงเข้ามาประกบริมฝีปากอย่างรวดเร็ว จูบดุดันร้อนแรงเอาแต่ใจจนเจ้าของหน้าหวาน ๆ หายใจแทบไม่ทัน แต่ก็จูบกลับไปเท่าที่ทำได้ ประธานหนุ่มรูปหล่อบดจูบลงอีกครั้ง ดูดดึงริมฝีปาก กัดเบา ๆ ก่อนสอดลิ้นเข้าเก็บเกี่ยวน้ำหวานในโพรงปากอย่างรุกเร้าเอาแต่ใจ มือร้อน ๆ ลูบไล้เนื้อตัวอีกฝ่ายอย่างหลงไหล บดเบียดเนื้อตัวเสียดสีกันจนร่างกายร้อนผ่าว อี้เฟิงเสียวจนน้ำตาแทบไหล แรงสั่นสะเทือนในกายไม่ได้ลดลง แก่นกายของเขาเสียดสีกับอีกฝ่ายผ่านเนื้อผ้าตามแรงกดของมือที่บีนเค้นอยู่ที่สะโพก ริมฝีปากยังถูกครอบครองจนบวมเจ่อ เขาจำเป็นต้องคล้องแขนทั้งสองข้างไว้กับอีกฝ่ายเพื่อทรงตัว ก่อนจะสะดุ้งอีกครั้งเมื่อรู้สึกได้ถึงมือเรียว ๆ ที่ปลดดุมกางเกงเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้สอดลึกเข้าไปในช่องทางสีหวาน ดันเจ้าของเล่นที่กำลังสั่นอย่างบ้าคลั่งให้เข้าไปลึกจนเสียดสีกับจุดกระสันจนไม่อาจกลั้นเสียงครางได้อีกต่อไป





         “อ๊า อ๊าาาาา พะ พอเถอะครับ นะ นี่ ในลิฟท์นะ”



         “เสียวจนแฉะขนาดนี้จะให้หยุดจริง ๆ หรือ หือ”



         หยางหยางไม่พูดเปล่า กลับเอามืออีกข้างลูบไล้แก่นกายของอี้เฟิงที่มีน้ำใสใสเอ่อล้นออกมา เขากอบกุมรูดรั้งเพียงนิดให้อีกฝ่ายทรมานมากขึ้น ใช้นิ้วโป้งปัดที่ปลายยอดจนน้ำใสติดมือมาเป็นสาย ก่อนจะส่งลิ้นออกมาแลบเลียชิมรสชาติ




         “หวานไม่เปลี่ยน” หยางหยางพูดพลางยิ้มมุมปาก มืออีกข้างยังคงขยับเข้าออกจากตัวอีกฝ่าย หนักบ้างเบาบ้างไม่ยอมให้อีกฝ่านถึงสวรรค์โดยง่าย





อี้เฟิงตัวสั่นสะท้านจนต้องอิงกับอกอีกฝ่ายไว้ หยางหยางปิดเครื่องไวเบรเตอร์ ก่อนจะเกี่ยวมันออกมาจากช่องทางสีหวานที่ตอดรัดถี่รัว แล้วดันตัวอีกฝ่ายให้หันหน้าเข้ากันผนังลิฟท์ ปลดซิปกางเกงตัวเองให้ท่อนเนื้อร้อนผ่าวแข็งขึงออกมาดุนดันช่องทางสีสวย ๆ ก่อนจะกดตัวเองเข้าไปอย่างรวดเร็ว



สวบ


“อ๊าาาาาา อึก”


“อืมม ทั้งแน่นทั้งร้อน รัดขนาดนี้เลย อา”




ประธานหนุ่มสอดตัวตนกระแทกกระทั้นอย่างรุกเร้าเอาแต่ใจ มือข้างหนึ่งสอดเข้าไปในเสื้อเชิตอีกฝ่าย เลื่อนไปบดขยี้ยอดอกจนแข็งชันขึ้นมาเบียดกับเนื้อผ้านุ่ม มืออีกข้างลากลงต่ำกอบกุมแก่นกายขยับถี่รัวตามแรงสอดลึกจนเสียงหวาน ๆ ครวญครางด้วยความเสียวซ่านก้องลิฟท์โดยสารแคบ ๆ นั้น หยางหยางก้มลงซุกไซ้ซอกคอ ดูดดึง ขบกัดจนขึ้นเป็นรอยรักสีกุหลาบและรอยฟันเล็ก




“อ๊ะ อ๊าา ระ แรง อะ อีก อึก อ๊าา” เสียงหวาน ๆ ร้องขอเมื่อความเสียวสะท้านพุ่งวาบจนใกล้จะถึงจุดหมายปลายทาง



“ติ๊ดดดดดด ติ๊ดดดดดดด มีใครติดอยู่ในลิฟท์ไหมครับ ลิฟท์ค้างหรือเปล่า วงจรปิดใช้ไม่ได้ ได้ยินแล้วตอบด้วยครับ” เสียงผู้รักษาความปลอดภัยดังขึ้นจากลำโพงลิฟท์ หยางหยางละมือข้างหนึ่งไปกดตอบรับ ก่อนจะกระซิบข้างหูอี้เฟิง โดยที่ยังคงกระแทกกายเข้าไปในช่องทางสีหวานไม่หยุด



“ตอบเขาไปสิ”




“ตอบสิ”




“อะ ไม่ครับ ผม ปะ ปลอดภัยดี”




“ไม่เป็นไรแน่หรือครับ พอดีมีผู้มาแจ้งว่าเห็นไฟลิฟท์ค้างอยู่ที่ชั้นสามสิบมานานไม่ได้เคลื่อนไปไหน กล้องวงจรปิดก็ใช้ไม่ได้




“นี่หยางหยาง บอกให้ใครใช้ลิฟท์ตัวอื่นไปก่อน แล้วก็ไปทำงานตามปกติซะ”




“คะ ครับผม!!





“สงสัยเราจะใช้เวลานานไปแล้วสินะ” หยางหยางว่าพลางสาวกายเข้าออกเร็วขึ้นแรงขึ้นตามอารมณ์ จนกระทั่งอี้เฟิงทนต่อความเสียวซ่านไม่ไหว ปลดปล่อยน้ำรักออกมาสาดกระเซ็นไปเปื้อนประตูลิฟท์เป็นทางยาว ช่องทางหวานตอดรัดอีกฝ่ายจนหยางหยางกัดฟันจนกรามขึ้นเป็นสัน เขาขยับตัวอีกสองสามครั้ง แล้วถอนตัวตนออกมาอย่างรวดเร็ว กดตัวอี้เฟิงให้คุกเข่าหันหน้ามารับแก่นกายร้อนผ่าวเข้าไปในโพรงปาก ก่อนปลดปล่อยออกมาอย่างสุขสม น้ำรักร้อน ๆ ฉีดพ่นเข้าไปในปากเล็ก ๆ ของอีกฝ่าย บางส่วนไหลลงลำคอจนร่างขาว ๆ สำลัก จนน้ำขาวขุ่นเยิ่มออกมาจากริมฝีปากแดงสดบวมช้ำที่ยังมีแก่นกายใหญ่คาอยู่





“กลืนลงไป แล้วเลียให้หมดล่ะ คุณเลขาอี้เฟิง”






หลังจากที่ลิ้นเล็ก ๆ ไล้เลียเก็บความคาวของน้ำรักของหยางหยางจนหมด ประธานหนุ่มก็เพียงดึงกางเกงขึ้นมาใส่อย่างเดิม ล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าเนื้อดีส่งให้อีกฝ่ายจัดการน้ำกามของตัวเองที่กระเด็นไปที่ประตูลิฟท์ให้สะอาด เมื่อเก็บหลักฐานเรียบร้อย หยางหยางก็เอื้อมมือไปกดลิฟท์ให้เริ่มทำงานอีกครั้ง จนอี้เฟิงต้องรีบแต่งตัวจนมือไม้สั่น ก่อนที่ประตูลิฟท์ จะเปิดออกอีกครั้ง











---------------------------“ติ๊ง! Fifty Floor”-----------------------------













-End-

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Fic: (AU) ถิงออล : นายพลหื่น #1

(AU) SF FIC : TO BE LOVE #เกอกินเด็ก : #2 [ถิงหยวน]

Fic: (AU) ถิงออล : นายพลหื่น #3