Drunk in love 1 : Single Night
DRUNK IN LOVE
(AU : YangFeng Fiction) : Essorhino
คำเตือน : ฟิคเรื่องนี้ ชายรักชายนะคะ แล้วก็เป็นจินตนาการของผู้แต่งเท่านั่น โปรดใช้วิจารณญาณค่ะ
บทที่ 1 : Single Night
ลูกค้าของผมค่อนข้างหลากหลาย บ้างเป็นสาวรักสนุก บางคนเป็นหนุ่มนักรัก
กระทั่งเด็กแก่เรียนบางคนก็เคยเป็นลูกค้าให้ผมชงเครื่องดื่มให้
น้อยครั้งจะเจอคนอ่านยาก และมีบรรยากาศรอบตัวไม่เหมือนใคร นั่นทำให้ผมรู้สึกท้าทาย
ผมชอบสังเกตอารมณ์ของผู้คนรอบตัว
และคาดเดานิสัยของคน ๆ นั้น ซึ่งนั่นเป็นความเพลิดเพลินในการทำงานของผม
และลูกค้าคนล่าสุดนี้ทำให้ความสนใจรอบตัวผมไปหยุดที่เขาได้ ทำได้ยังไงกันนะ
ผมเดินเข้าไปหาชายคนนั้น
ยิ่งเดินไปใกล้เท่าไหร่ จากบรรยากาศที่ดูสลัว ดูมีมิติขึ้น มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ
ลอยฟุ้งขึ้นมา สอดแทรกประสาทสัมผัสของผมจนลมหายใจสะดุด
“สวัสดีครับคุณลูกค้า
เพิ่งเคยมา The Secret ครั้งแรกใช่ไหมครับ”
ผมเอ่ยทักทายลูกค้าคนนั้น เคาน์เตอร์ของผมมีคนมานั่งไม่บ่อย เพราะส่วนใหญ่
จะมารับเครื่องดื่มแล้วเดินจากไป
“คุณบาร์เท็นเดอร์”
ชายคนนั้นหันหน้ามาหาผม
เอ่ยทักตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มเจิดจ้าซึ่งทำให้บรรยากาศรอบตัวเราเปลี่ยนไปอีกครั้ง
คราวนี้แสงสว่างจากคนตรงหน้ามีเพิ่มขึ้น ประกายความสนุกฉายออกมาจากแววตา
“ผม
หยางหยาง ครับ”
“คุณบาร์เท็นเดอร์
ขอเครื่องดื่มให้ผมสักแก้วสิ ได้ไหม”
ผมรู้สึกถึงความท้าทายจากแววตาลูกค้าลึกลับของผม และนั่นถือเป็นเรื่องสนุกของผม
เอาสิครับ มาลองดูว่าผมจะทำให้คุณผิดหวังไหม
ผมหมุนตัวกลับไปที่บาร์
แล้วเริ่มต้นหยิบขวดแก้วสีแดงขวดพิเศษ Vodka, Sour
mix และ Soda ผมเทของเหลวจากขวดแก้วสีแดง
ผสมทุกอย่างให้เข้ากันผ่านเช็คเกอร์ ใส่น้ำแข็งพิเศษสำหรับคอกเทล
แล้วเทเครื่องดื่มลงไป ตกแต่งด้วยโรสแมร์รี่และกลีบกุหลาบ แล้วนำ Single Night in Universe ไปเสิร์ฟให้ลูกค้าที่น่าสนใจของผม
“’Single Night in Universe’ ครับ ลองชิมดูนะครับคุณลูกค้า
ว่าชอบไหม”
“คุณบาร์เท็นเดอร์
ทำไมถึงคิดว่าผมเหมาะกับแก้วนี้ละครับ”
“คอกเทลแก้วนี้คือความเคลิบเคลิ้มครับ
นั่นเป็นความรู้สึกแรกที่ผมมีต่อคุณ” ผมตอบ พลางมองเข้าไปในตาของลูกค้าตรงหน้า
ซึ่งกำลังลิ้มรสคอกเทลตรงหน้า แต่แอบหน้าแดง หือ หรือว่าผมจะใส่ว็อดก้ามากไป
ไม่หรอกน่า
“เป็นไงบ้างครับ
พอจะถูกใจคุณลูกค้าบ้างไหม”
“คุณชงคอกเทลแก้วนี้บ่อยไหมครับ”
คุณลูกค้าของผมไม่ตอบคำถาม แต่เลือกถามคำถามออกมาแทน
“ไม่ครับ”
ผมตอบตามตรง “คุณเป็นคนที่สองที่ผมชงแก้วนี้ให้ ตั้งแต่ผมเป็นบาร์เท็นเดอร์มา”
“ทำไมละ”
คนตรงหน้าเงยหน้าขึ้นถามอย่างกระตือรือร้น เอาอีกแล้ว บรรยากาศเปลี่ยนไปอีกครั้ง
คราวนี้ผมรู้สึกถึงความสดใส คนนี้เป็นคนยังไงกันแน่นะ
“นี่
ทำไมล่ะคุณบาร์เท็นเดอร์” เสียงอีกคนแทรกความคิดผมเข้ามา นี่ผมคิดนานไปหรอ
“ก็เพราะ...ที่ผ่านมาไม่มีคนไหนทำให้ผมรู้สึกแบบคุณไงครับ
แล้วชอบไหมครับ แก้วนี้”
“ก็ชอบ
ดื่มแล้วเคลิ้มจริง ๆ นี่ ขออีกได้ไหม” ลูกค้าตรงหน้าดื่มคอกเทลจนหมด
แล้วขอเพิ่มอีกครั้ง
“รอสักครู่นะครับ”
ผมตอบแล้วหมุนตัวจากมาอีกครั้ง คราวนี้ ผมเดินไปอีกฝั่ง หยิบมิ้นท์ น้ำมะนาว
น้ำเชื่อม
ว็อดก้า น้ำแข็ง ปั่นรวมกัน เทใส่แก้ว แล้วฝานมะนาวเสียบไว้ที่แก้ว แล้วนำมาเสิร์ฟอีกครั้ง
ว็อดก้า น้ำแข็ง ปั่นรวมกัน เทใส่แก้ว แล้วฝานมะนาวเสียบไว้ที่แก้ว แล้วนำมาเสิร์ฟอีกครั้ง
“Double cool ครับ”
“ทำไมไม่ใช่แบบเดิมล่ะ”
“เพราะตอนนี้ผมรู้สึกสดชื่น
และสบายใจที่ได้คุยกับคุณ”
ครั้งนี้ผมเลี่ยงที่จะตอบว่าบรรยากาศของคนตรงหน้าเปลี่ยนไปจนผมเลือกคอกเทลแก้วนี้ให้
ซึ่งนั่นทำให้ผมสนใจคนคนนี้มากขึ้นไปอีก เมื่อเห็นอีกฝ่ายยิ้มร่า
แล้วเริ่มต้นจิบคอกเทลเข้าไป ริมฝีปากแดง ๆ
นั่นอมยิ้มอย่างมีความสุขกับความเย็นและความสดชื่นของคอกเทล
“อร่อยมาก
ชอบทั้งสองแบบเลย คุณบาร์เท็นเดอร์เก่งจังเลยนะครับ”
“ไม่หรอกครับ
ผมแค่เชื่อความรู้สึกตัวเองที่มีต่อคุณ” ผมตอบกลับไป
และเห็นอีกฝ่ายกำลังจะลุกจากเก้าอี้ตรงหน้า ก็อดมองนาฬิกาไม่ได้ อีก ครึ่ง ชม.
ร้านก็จะปิดแล้ว
“กลับแล้วหรอครับคุณลูกค้า
ถ้าคราวหน้ามา The secret อย่าลืมมาชิมคอกเทลอีกนะครับ” ผมยิ้มแล้วบอกลาลูกค้าของผมในคืนนี้
“ได้สิ
จะกลับมาลองว่าคราวหน้าจะได้ดื่มอะไรอีก ไปแล้วนะ คุณบาร์เท็นเดอร์” พูดจบ
คนตรงหน้าก็วางเงินค่าคอกเทลไว้ตรงข่างแก้วแล้วเดินจากไป
“หยางหยางครับ
มาคราวหน้าเรียกชื่อผมนะครับคุณลูกค้า”
ผมได้แต่ตะโกนฝ่าเสียงเพลงกระหึ่มไล่หลังอีกฝ่าย ซึ่งคนคนนั้นได้แต่หันมายิ้ม
แล้วเดินจากไป
ผมเดินมาเก็บแก้วเตรียมไปทำความสะอาด
และเก็บเงินเตรียมนำไปให้เคาน์เตอร์ชำระเงิน แต่ระหว่างที่นับเงินกำลังจะเอาไปเก็บ
ผมพบกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ตรงหลังแบงค์ใบหนึ่ง มีคำสั้น ๆ เขียนไว้แค่ ‘หลี่อี้เฟิง’……
ผมยิ้มใส่กระดาษแผ่นนั้น
แล้วหย่อนใส่กระเป๋า แล้วเจอกันนะครับ คุณลูกค้าหลี่อี้เฟิง
--------------------------------------------------------------
หลังจากนั้นหลายสัปดาห์ ทุกคืนวันศุกร์ ผมก็มีลูกค้าประจำเพิ่มอีกหนึ่งคน
แต่ผมไม่เคยทำคอกเทลสำหรับคุณอี้เฟิงซ้ำกันเลย แค่อีกฝ่ายปรากฏตัว
บรรยากาศรอบตัวผมจะเปลี่ยนไปทุกครั้ง
ซึ่งผมรู้สึกสนุกกับการทายอารมณ์และตัวตนของลูกค้าคนสำคัญคนนี้
จนป่านนี้ผ่านไปเกือบ 2 เดือน ผมก็ยังรู้จักตัวตนของอีกคนได้ไม่หมด
จนกระทั่งวันทำงานวันอื่น ๆ ของผมน่าเบื่อไปหมด เมื่อไม่เจอคุณอี้เฟิง ลูกค้าอื่น
ๆ ไม่ทำให้ผมตื่นเต้น สาว ๆ
มากหน้าหลายตาที่โฉบผ่านมาที่เคาน์เตอร์ไม่สามารถสะกดความสนใจของผมได้อีกแล้ว
วันนี้วันพฤหัสบดี
ผมทำงานอย่างกระตือรือร้นนิดหน่อยด้วยความยินดีในช่องท้องว่าพรุ่งนี้จะได้เจอกับคุณอี้เฟิงแล้ว
ผมคิดถึงบทสนทนาครั้งก่อน ๆ ของเราที่ผลัดกันสรรหามาเล่า เรื่องรอบตัวง่าย ๆ
อย่างดินฟ้าอากาศ อาหารที่ชอบ แนวดนตรีที่ฟัง
ก็น่าสนใจเสมอเมื่อเรื่องราวพวกนั้นออกมาจากปากแดง ๆ แสนเจื้อยแจ้ว
วันไหนที่คุณอี้เฟิงอารมณ์ดี บรรยากาศรอบตัวจะสดใส เหมือนเด็กที่ยิ้มง่าย
หัวเราะกับเรื่องตลกที่ผมเล่า แถมยังขี้อ้อน
ขอชิมคอกเทลแก้วนู้นแก้วนี้ไม่ขาดจนผมต้องปราม
กลัวว่าอีกฝ่ายจะเมามากจนกลับบ้านไม่ได้
“หยางหยาง
นายยิ้มอะไรอยู่คนเดียว บ้าหรอ” เสียงเพื่อนสนิทของผมดังข้ามเคาน์เตอร์มาหา
คนคนนี้เป็นนักร้องประจำของที่ร้านในช่วงหัวค่ำ
ก่อนที่ช่วงดึกเพลงจะเปลี่ยนเป็นดีเจเปิดแผ่นด้วยบีตหนักๆ
“ยิ้มอะไรก็เรื่องของฉันน่า
แล้วยังไม่ขึ้นเวทีอีกหรือไงนายน่ะ ลูกค้าชะเง้อแล้วนะ เฉินเสียง”
“คิวฉันอีก
ครึ่ง ชม. ว่าไง มีความรักหรอนายเนี่ย นิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว
ว่าแต่เอาคอกเทลมาแก้วสิ” ผมรับคำไม่ตอบเพื่อน
ได้แต่หันหลังชงเหล้าแก้วโปรดให้เพื่อนอย่างรู้ใจ
“อ่ะ
นี่ของนาย B52” ผมส่งเหล้าร้อน
ๆ ให้เพื่อน แล้วจุดไฟที่แก้วอย่างชำนาญ
บรรยากาศอบอุ่นร้อนแรงอวลขึ้นมารอบตัวเฉินเสียง
ตั้งแต่หมอนี่นั่งลงที่เคาน์เตอร์
ก็มีสาวน้อยสาวแท้สาวเทียมวนเวียนจนผมตาลาย
ส่วนเพื่อนสนิทผมก็ยังหัวเราะและยิ้มให้สาว ๆ อย่างชอบใจ จนเวลาที่อีกฝ่ายต้องขึ้นเวที
เฉินเสียงพยักหน้าให้ผมแล้วเดินขึ้นเวทีไป ทิ้งสาว ๆ ให้ผมรับภาระต่อ
จวบจนเวลาผ่านไปครึ่งคืน
อยู่ ๆ คนที่ผมไม่คิดว่าจะเจอวันนี้ก็เดินเข้ามา
“สวัสดีครับคุณบาร์เท็นเดอร์”
และเหมือนเคยที่คุณอี้เฟิงไม่เรียกชื่อผม
“ทำไมวันนี้มาได้ละครับ”
ถึงแม้ว่าลูกค้าประจำของผมจะไม่เคยนัดวัน-เวลา ในการมาดื่มแต่ละครั้ง แต่คนตรงหน้ามาที่ร้านเฉพาะวันศุกร์
เวลาราว ๆ สี่ทุ่ม ไม่ขาดไม่เกิน
“ลองทายดูสิครับ”
เหมือนเดิมระหว่างเรา เวลาที่ผมถามอะไร คุณอี้เฟิงจะไม่ตอบ จะให้ผมเดา
และเขาจะยิ้มทุกครั้งที่ผมทายถูก ซึ่งมันเป็นเกมส์ที่ผมชอบ แต่อีกครั้งที่ผมรู้สึก
วันนี้บรรยากาศรอบตัวลูกค้าของผมเปลี่ยนไปอีกครั้ง
ผมเดินไปที่บาร์
เลือกหยิบ Black vodka , Orange Juice &
Lemon Juice, Salt ใส่น้ำแข็งเต็มแก้ว
เทส่วนผสมทั้งหมดใส่แก้วยกเว้นว็อดก้า วางส้มชิ้นและเชอร์รี่ลงไป ก่อนที่จะเท Black
vodka ลงไปเป็นอย่างสุดท้าย
“Black Screwdriver วันนี้คุณเหมาะกับแก้วนี้ครับ”
“ทำไมคิดแบบนั้นละครับ”
คุณอี้เฟิงถามผม ผมทบทวนอ้อยอิ่งกับความรู้สึกที่อบอวลอยู่ในอากาศ
“บรรยากาศวันนี้
รสชาติเหมือนความรักครับ” ผมตอบในที่สุด
“ยังไงครับ
ความรักแก้วนี้” คนตรงหน้าเอียงคอถาม รอคำตอบเหมือนทุกครั้งที่ผมชงเครื่องดื่มที่แตกต่างกันในแต่ละวัน
“ความรู้สึกวันนี้ของผมตอนที่เจอคุณ
มันหวานอมเปรี้ยว แปลกใจ ประมาณนั้นแหล่ะครับ” ผมตอบ แต่อีกคำที่ไม่ได้พูดไป ทั้ง
ๆ ที่มันคือความรู้สึกของคอกเทลแก้วนี้ ‘คิดถึง’ ถ้าได้เจอกันก็หวาน
ห่างกันรสหวานก็เจือความเปรี้ยวซ่านลิ้น ที่ทำให้อยากเจอ อยากกินอีกแก้ว
ลูกค้าของผมทำหน้าประหลาดใจ
ก่อนจะยิ้มออกมาบาง ๆ
“คุณทายถูกอีกแล้ว
คุณบาร์เท็นเดอร์”
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้ม ก่อนจะแยกตัวไปดูแลลูกค้าท่านอื่น
หลังจากที่ส่งเครื่อมดื่มแก้วสุดท้ายให้ลูกค้าสาวสวยรายสุดท้าย
ผมหันกลับมาที่ที่ลูกค้าประจำของผมนั่งอยู่ แต่ไม่มีวี่แววของคุณอี้เฟิง
‘หรือว่าจะกลับไปแล้ว’ ผมคิดในใจอย่างประหลาดใจอีกครั้ง
คุณอี้เฟิงไม่เคยกลับโดยที่เราไม่ได้ล่ำลากัน ผมเดินไปที่ที่นั่ง
ก็เห็นแก้วเปล่าวางทับธนบัตรค่าคอกเทล พร้อมทิชชู่ที่มีข้อความหนึ่ง
‘….ถึงคุณไม่พูด แต่ผมก็รู้สึกเหมือนกัน....’
อา
เมื่อไหร่คืนนี้จะผ่านไปนะ อยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็ว ๆ จังนะครับ คอกเทล คงหวานน่าดู……….
---------------------------------To be Continue -------------------------------
โอ๊ยยยยยย คุณลูกค้าคะะะะะะะะะ อ่อยมากค่าาาาาาา
ตอบลบคุบาร์เทนเดอร์ก็ยั่ว คุณลูกค้าก็อ่อย อะไรกันเนี่ย
อยากรู้ความรู้สึกเฟิงบ้าง นางคิดอะไรอยู่กันแน่ 555
ความรู้สึกเฟิง ต้องรอตอนพิเศษนะคะ 555555555 ส่วนความอ่อยความยั่ว คุณบาร์ทำงานกลางคืนก็แบบนี้ละเนาะ ส่วนเฟิง อันนี้ต้องดูไปค่ะ 555555
ลบ