Drunk in love 8 : Conviction

DRUNK IN LOVE
(AU : YangFeng Fiction) : Essorhino
คำเตือน : ฟิคเรื่องนี้ ชายรักชายนะคะ แล้วก็เป็นจินตนาการของผู้แต่งเท่านั่น โปรดใช้วิจารณญาณค่ะ







บทที่ 8 : Conviction
Cr. Pic : http://www.bacardi.com/us/SiteImages/featured-cocktails/fc-kc-step0-bg.jpg

         








           หยางหยางไปทำงานตามปกติมาได้สามสัปดาห์กว่าแล้ว ที่เพิ่มเติมก็คือ ทุกวันหลังจากผมเลิกงาน จะมีคนน่ารักมารอรับผมกลับบ้าน บางวันก็จะมาช่วยเก็บเคาน์เตอร์หลังจากที่ร้านปิด ซึ่งทุกคนในร้านก็ต้อนรับขับสู้แฟนผมอย่างดี ต่างพากันมาเย้าแหย่อี้เฟิงของผมจนอายม้วนบ้าง แก้มแดง ๆ ขึ้นสีเรื่อ รอยยิ้มเขินอายส่งไปให้เหล่าเด็กเสิร์ฟและเพื่อน ๆ บาร์เทนเดอร์จนบางทีผมต้องแอบปรามเพื่อน ๆ ให้ลด ๆ การแซวแฟนผมเสียที เห็นอย่างนี้ผมก็หวงนะครับ




   อีกข่าวที่ทำให้ผมรู้สึกแปลกใจมากที่สุดก็คือเรื่องฮั่นเกอกับเพื่อนรักของผม ที่ไปไงมาไงไม่รู้ อยู่ ๆ ฮั่นเกอก็มาบอกกับผมว่าคบกับเฉินเสียงแล้ว ผมแปลกใจ แต่ก็ยินดีด้วย เพราะฮั่นเกอเป็นคนดี ดีแล้วที่เฉินเสียงจะได้มีคนดูแล หลังจากที่ลอยชายเป็นพ่อพวงมาลัยอยู่นานสองนาน


         “คุณบาร์ เก็บของเสร็จแล้วล่ะ กลับบ้านกัน”

         “วันนี้อี้เฟิงจะนอนบ้านผมไหม”

         “อื้อ ได้สิ พรุ่งนี้วันหยุดคุณบาร์ใช่ไหมล่ะ วันเสาร์นี่นาคราวนี้”

         “ก็คุณหยุด ผมก็อยากหยุดอยู่กับแฟนนี่ครับ”



         ส่วนใหญ่ ถึงอี้เฟิงจะมารับผม แต่ก็กลับไปนอนบ้านตัวเองอยู่ดี เพราะทางกลับบ้านผมจากร้าน เป็นทางผ่านบ้านเขา ซึ่งผมก็เพิ่งรู้เมื่ออาทิตย์แรก ๆ ที่เราคบกัน คุณเหว่ยถิงกับภรรยาก็รับรู้ว่าเราคบกัน ซึ่งผมโล่งใจที่ทางบ้านอี้เฟิงไม่ได้กีดกันหรือกดดันอะไรผม และไม่ได้รังเกียจที่ผมทำงานกลางคืน ในผับในบาร์ซึ่งเต็มไปด้วยอบายมุข อี้เฟิงเล่าให้ผมฟัง ว่าพี่สาวของเขาถูกชะตาผมมาก ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดี



“ไปครับอี้เฟิง ผมจัดการเคลียร์บาร์เรียบร้อยแล้ว” ผมหันไปสะกิดแฟนที่หันหลังให้ มองผ่านแสงเจิดจ้ากว่าปกติเพราะทางร้านกำลังทำความสะอาด


“หยาง



ผมหันไปมองด้วยความแปลกใจ แต่ไหนแต่ไรมา อี้เฟิงไม่เคยเรียกชื่อผมเลย แต่ผมพบว่า อี้เฟิงไม่ได้มองผมอยู่ แต่มองไปทางผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ยืนอยู่หน้าประตูร้าน ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบาร์ที่พวกเรายืนอยู่นัก



“ครับ ว่าไงครับอี้เฟิง” ผมขานรับ แต่คนข้างตัวเหมือนไม่ได้ยินเสียงผม ดวงตายังคงจับจ้องอยู่ที่หน้าประตู



“หยางมี่” อี้เฟิงเอ่ยเสียงแผ่ว แต่ในความเงียบนี้ผมได้ยินมันชัดเจน น้ำเสียงของคนรักของผมดูตระหนกตกใจ และ มัน เหมือนคนกำลังโมโห



“อี้เฟิง คุณเป็นอะไร” ผมจับมืออี้เฟิง เพื่อให้อีกฝ่ายละสายตาจากประตูมามองที่ผม แต่มือนั้นเย็นเฉียบ และสั่นระริก



“คุณบาร์ คุณบาร์ ขอร้อง พาผม พาผมกลับบ้าน” อี้เฟิงเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่าสั่นไหว ดวงตาหวาน ๆ แดงก่ำ ริมฝีปากเม้มแน่น หยางหยางตัดสินใจในวินาทีนั้น เขาพาคนรักของตัวเองเดินหลบไปตามทางที่จะออกประตูหลัง สันนิษฐานถึงสาเหตุความเป็นไปได้ที่อี้เฟิงจะโมโหมากขนาดนี้ และเขาคิดว่าปัญหาอยู่ที่ผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่ชื่อหยางมี่



ผมพาอี้เฟิงเดินอ้อมออกมาที่ประตูหลัง และเดินไปที่ลานจอดรถ ในระหว่างที่เดิน อี้เฟิงไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว เมื่อเดินมาถึงรถ ผมละมือออกจากอี้เฟิงเพื่อความหากุญแจในกระเป๋าสะพายใบเล็กของผม แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร ผู้หญิงที่ยืนอยู่หน้าร้านคนนั้นก็เดินตรงมากระชากแขนอี้เฟิงให้หันไปทางเธอ



“ไง อี้เฟิง ไม่ทักทายกันหน่อยหรือไง”


“ผมไม่จำเป็นต้องทักทายคนอย่างคุณ”


“อ้อ เดี๋ยวนี้กล้ายอกย้อนปากดีเชียวนะ คิดว่าคนข้าง ๆ นายจะช่วยอะไรได้บ้างหรือไง”


“ไง รูปหล่อ” หญิงสาวตรงหน้าพูดกับอี้เฟิง เสร็จแล้วก็หันมาเกาะแขนผม แล้วทักทาย ผมดึงแขนออกจากการเกาะกุมของสาวสวย แต่ท่าทางนิสัยจะไม่สวยเท่าไหร่ แล้วขยับไปอยู่ข้างกายคนรัก



“มาทำไม” อี้เฟิงกระชากเสียงถาม นัยย์ตายังแดงก่ำ


“ก็ไม่ยังไง เห็นนายมีความสุขเกินไป ก็เลยมาหาเสียหน่อย”


“คราวนี้เธอไม่มีวันได้ไป ทำไม ที่แย่ง ๆ ไปถึงใจไม่พอหรือไง” ผมตกใจในคำพูดรุนแรงของอี้เฟิง จึงจับต้นแขนเขา เขาหันมามองผมด้วยสายตาเอาเรื่อง แต่ไม่พูดอะไร



“จริง ๆ ของเหลือเดนของนายมันก็ไม่ได้เด็ดอะไร ฉันก็แค่แวะมาบอกให้ดูแลของของตัวเองให้ดีดีล่ะ วันนึงเกิดอะไรขึ้นมาฉันไม่รู้ด้วยหรอกนะ หึหึหึ”



“อี้เฟิง” ผมเรียกคนรักที่ยังยืนกำหมัดแน่น ในใจคงตะโกนด่าผู้หญิงที่หมุนตัวเดินกลับไปอย่างเผ็ดร้อน ผมกระตุกมืออี้เฟิงให้คลายอารมณ์โกรธ เปิดประตูรถให้อีกฝ่าย ก่อนหมุนตัววิ่งกลับไปอีกฝั่งด้านคนขับ สอดตัวเองเข้าไปในรถ เปิดแอร์คลายความหงุดหงิดของคนข้างกาย แล้วขับรถกลับบ้านอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางผมไม่ได้คุยอะไรกับอี้เฟิง เพราะว่าอีกคนยังตาขวางหงุดหงิด ซึ่งผมยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง และไม่อยากเซ้าซี้ให้
อี้เฟิงโมโหกว่าเดิม




หยางหยางเดินนำเข้าไปในบ้าน ตรงดิ่งไปยังเคาน์เตอร์บาร์ของตัวเอง ในขณะที่อี้เฟิงเดินตามเข้ามา แล้วทรุดตัวนั่งอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์ จ้องมองมาที่หยางหยางที่กำลังนำแก้วมาวาง แล้วหมุนตัวไปหยิบ เตกีล่า น้ำมะนาวคั้น , Blue Curacao และ Manoun Soda ใส่น้ำแข็งจนเต็มแก้ว เทส่วนผสมทั้งหมดลงในแก้ว Rock ทาขอบแก้วด้วยเกลือ แล้วส่งแก้วคอกเทลนั้นให้ผม



Blue Dorado ครับ ช่วยให้ใจเย็นลงได้”



“ขอบคุณนะคุณบาร์” อี้เฟิงรับแก้วมาจากหยางหยาง เริ่มจิบคอกเทลที่แฟนหนุ่มชงให้ช้า ๆ  ความเปรี้ยวของน้ำมะนาวและความเค็มของเกลือที่ทาอยู่รอบแก้วดึงสติอี้เฟิงให้ใจเย็นลงได้ หยางหยางเดินมาซ้อนหลังคนรัก ดันให้อีกฝ่ายลุกขึ้นจากเก้าอี้หน้าบาร์ ให้ไปนั่งตรงขอบเคาน์เตอร์บาร์ที่แล้วตัวเองก็นั่งแทนที่อีกฝ่าย



“คุณเป็นอะไรอี้เฟิง ผมเป็นห่วงคุณนะ” หยางหยางถาม ยื่นมือออกไปสัมผัสข้างแก้มอีกฝ่ายที่ดูจะใจเย็นลงบ้างแล้ว อี้เฟิงเอียงแก้มแนบกับมืออุ่น ๆ โดยดี ก่อนจะวางแก้วคอกเทลที่ว่างเปล่าลงที่เคาน์เตอร์ข้าง ๆ ตัว แล้วเริ่มเล่า



“คุณบาร์เคยสงสัยไหมว่าทำไมผมไม่เคยเรียกชื่อคุณบาร์เลย ไม่ว่าเวลาไหน”



“ครับ แต่ผมคิดว่าอี้เฟิงคงจะติดเรียกผมว่าคุณบาร์ ก็เลยไม่ได้ว่าอะไรน่ะครับ”



“จริง ๆ แล้วก็ติดเรียกส่วนหนึ่ง แต่ส่วนหนึ่งที่ผมไม่เรียกก็
เพราะนังนั่น!


“จุ๊ ๆ พูดไม่เพราะเลยนะครับ”


“กับผู้หญิงคนนี้คนเดียวเท่านั้นแหล่ะน่า อย่าดุสิ”



“ผู้หญิงคนที่เจอเมื่อกี้ชื่อหยางมี่ เคย เป็นเพื่อนสนิทของพี่อี้เฟยพี่สาวผม ตอนนั้นผมเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง มีแฟนเป็นเดือนคณะรุ่นเดียวกัน ซึ่งผมมารู้ทีหลังว่าแฟนคนนี้คบผมซ้อนกับหยางมี่ แต่สุดท้ายฝ่ายนั้นก็เลือกผม แล้วทิ้งหยางมี่ไป แต่ผมก็รับไม่ได้นะ จึงเลิกกับเขาหลังจากนั้นทันทีเหมือนกัน แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น เมื่อไหร่ที่ผมมีแฟน หยางมี่ก็จะมาหาเรื่องแย่งไปทุกครั้ง จนกระทั่งผมจบมหาลัย สี่ปีตามรังควาญผมเหมือนหมาบ้าจนผมประสาทเสีย หลังจากนั้นผมก็ไม่มีแฟนอีก เพราะหงุดหงิดที่แฟนแต่ละคนพอมีสาว ๆ มายั่วก็ไปหาเขาเสียหมด ไม่มีใครจริงใจสักคน ผมก็เลยไม่อยากเอ่ยชื่อนังงูพิษนั่นออกมาทั้ง ๆ ที่เขามีชื่อแค่พยางค์เดียวที่เหมือนกับคุณ ผมเกลียด คุณบาร์ไม่โกรธผมใช่มั้ย”


“หึหึ ไม่หรอกครับ แล้วทำไมถึงยอมเป็นแฟนกับผมละครับ”


“ก็ เพราะผมเชื่อใจคุณบาร์ เชื่อว่าคุณบาร์ไม่ได้เป็นแบบคนพวกนั้น ผมเชื่อคุณบาร์ได้ใช่ไหม”


อี้เฟิงถาม พร้อมกันยันตัวเองลุกขึ้นมานั่งคร่อมตักหยางหยางที่นั่งอยู่ตรงหน้า สองแขนเหวี่ยงไปโอบรอบคออีกฝ่าย



“ใช่มั้ยคุณบาร์ คุณบาร์รักอี้เฟิงใช่มั้ย จะไม่ทำแบบนั้นนะ”
อี้เฟิงถามชิดริมฝีปาก หยางหยางได้ฟังก็กดจูบหนัก ๆ ลงบนริมฝีปากของคนช่างยั่วตรงหน้า



“ต้องพิสูจน์ครับ ว่าคำพูดผมเชื่อใจได้แค่ไหน”



“งั้นอี้เฟิงจะทำให้คุณบาร์รักอี้เฟิง หลงอี้เฟิงจนมองใครไม่ได้อีก” 

สรรพนามน่ารักที่อีกฝ่ายแทนตัวเองทุกครั้งที่อ้อนเขา ทำเอาเขาพ่ายแพ้



“แค่นี้ผมก็รักอี้เฟิงจะตายอยู่แล้วละครับ” หยางหยางกระซิบกลับไปยังคนรักของตัวเอง พลางกดจูบลงอีกครั้งที่มุมปาก แลบลิ้นไล้เลียริมฝีปากแดงเรื่อ อี้เฟิงเปิดปากรับจูบอย่างรวดเร็ว ทั้งสองแลกเปลี่ยนความหวานให้แก่กันและกัน เพิ่มเติมความเชื่อใจลงในใจของกันและกัน



“หยางหยางรักอี้เฟิงครับ” //  “อี้เฟิงรักคุณบาร์”



ทั้งสองพูดประโยคนี้พร้อมกันเมื่อหยางหยางถอนริมฝีปากออก ทั้งสองยิ้มให้แก่กัน หยางหยางเอาหน้าผากชนกับอีกฝ่ายเบาเบา  และมองเข้าไปในตาคนรักของตัวเองอย่างแน่วแน่ไม่ไหวติง



“ผมสัญญาครับอี้เฟิง ผมจะไม่ทำให้อี้เฟิงร้องไห้”



“พูดแล้วอย่าคืนคำนะคุณบาร์”



อี้เฟิงตบรางวัลคำสัญญานั้นด้วยการจูบอีกฝ่ายที่ริมฝีปากเบา  ๆ ทั้งสองช่วยกันปลดเปลื้องเสื้อผ้ากันและกันอย่างไม่เร่งรีบ มือร้อน ๆ ของหยางหยางลากไล้เล้าโลมหนักเบาไปตามร่างขาว อี้เฟิงบิดเร้า ก่อนดันให้หยางหยางนั่งลงที่เก้าอี้บาร์อีกครั้ง แล้วกดตัวลงบนแก่นกายร้อนผ่าวอย่างไม่ลังเล



“อา อี้เฟิง”



“คุณบาร์ ห้ามคืนคำ อ๊ะ นะ”



“ครับ ขอให้อี้เฟิงเชื่อใจผมนะ ผมรักคุณครับ อี้เฟิง”




หยางหยางขยับกายช่วยคนที่หอบอยู่ด้านบน บทรักเร่าร้อนแต่แสนหนักแน่นมั่นคงร้อยรัดความรักของพวกเขาอย่างแน่นหนาอยู่แบบนั้น จนมั่นใจได้ว่าหยางหยางรักอี้เฟิงคนเดียว…..




......หยางหยางรักอีี้เฟิงคนเดียว.....









----------------------To Be Continue-------------------







สกรีมได้ที่ #คุณบาร์นะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ จุฟๆ




        




ความคิดเห็น

  1. แหมะ คุณอี้เฟิงวางกับดักซะขนาดนี้ คุณบาร์จะไปไหนรอดดดดดดดดดดดดด

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Fic: (AU) ถิงออล : นายพลหื่น #1

(AU) SF FIC : TO BE LOVE #เกอกินเด็ก : #2 [ถิงหยวน]

Fic: (AU) ถิงออล : นายพลหื่น #3