Drunk in love 7 : Forget IT
บทที่ 7 : Forget it
Cr. Pic http://www.belfasthenparty.com/wp-content/uploads/2012/06/cocktails-2.jpg
หลังจากที่ออกจากบ้านหยางหยางอย่างผิดหวัง เฉินเสียงกลับไปที่บาร์อีกครั้ง เพื่อหวังว่าจะไปลองหาขวดเหล้าที่ผิดปกตินั้น ระหว่างทางกลับไปมีแต่บทสนทนาทั้งหลายที่ในวันนี้เขาได้รับรู้ผ่านเข้ามาในสมอง ภาพที่หยางหยางเปิดประตูต้อนรับเขาเมื่อกี้ไม่ได้เรียบร้อยนัก และคนอย่างเขาก็เดาไม่ยาก ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง ความเร่าร้อนของหยางหยาง มีมากเท่าไหร่เขาไม่อยากรับรู้ เมื่อมันไม่ได้เกิดขึ้นกับเขา มันเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เขาไม่กล้าก้ามข้ามประตูบ้านเข้าไป เขาเจ็บพอแล้ว เขาไม่อยากเห็นภาพบาดตาใดใดอีกแล้ว
เขาก้าวลงจากรถ อ้อมไปเพื่อจะเข้าบาร์ทางหลังร้าน แต่อีกครั้งที่มีคนยืนดักรอผมที่หลังร้าน อะไรกันนักหนานะ
“ฮั่นเกอ ทำไมมาอยู่ตรงนี้ล่ะ”
“ก็เพราะอะไรนายถึงมาอยู่ตรงนี้ทั้ง ๆ ที่บอกเกอว่าไม่สบายล่ะอาเสียง”
“ผม ขอโทษครับเกอ”
“ช่างเถอะ หานี่อยู่ใช่ไหมล่ะ” ฮั่นเกอพูดพลางยกขวดเหล้าขึ้นมาให้ผมดู
“เกอ เกอรู้หรอครับ”
“จะมีอะไรที่เกอไม่รู้หรออาเสียง ดูถูกกันเกินไปนะ เกอรู้จักลูกน้องทุกคนดี แล้วก็รู้ทุกเรื่องนั่นแหล่ะ อย่างน้อย ร้านเกอก็มีวงจรปิดนะอาเสียง เรื่องหลังร้านเมื่อครู่ใหญ่เกอก็รู้ รู้แม้แต่ว่าอาเสียงมาอยู่ตรงนี้ทำไมทั้ง ๆ ที่มือก็ยังเจ็บ ใจก็ยังเจ็บ”
“เกอ…….ผม” ผมทรุดตัวลงไปกับพื้น อยากร้องไห้เหลือเกิน นี่ผมทำไปทุกอย่างเพื่ออะไรกันนะ ตั้งแต่ผมรักคนที่ไม่ได้รักผม วิ่งเต้นทำให้ทุกอย่างทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้ต้องการ ไม่สนใจใยดี ไม่แม้แต่จะเชื่อใจผมด้วยซ้ำ ผมไม่รู้จะทำอย่างไร ความเป็นห่วงหยางหยางถูกคลายไปตั้งแต่ฮั่นเกอเอาเหล้ามายื่นต่อหน้าผม แต่ผมยังไม่ไว้ใจ ผมไม่รู้ว่าเฮียป๋อหรันมีแผนอะไรอีกหรือเปล่า
“อาเสียง มานี่มา” ฮั่นเกอจับไหล่ผม พยุงขึ้นมายืน ก่อนโอบไหล่ เดินเข้าไปในร้าน ผ่านกลุ่มเครื่องเสียง โต๊ะ เก้าอี้ต่าง ๆ มุ่งหน้าสู่บันไดด้านหลัง ฮั่นเกอพาผมไปชั้นสาม ผ่านห้องทำงาน เข้าไปลึกในส่วนต้องห้ามที่ฮั่นเกอบอกว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัว ห้ามใครผ่าน ผมเดินตามการชักนำของฮั่นเกออย่างเลื่อนลอย สมองไร้การสั่งการใดใดอีก
ฮั่นเกอเปิดประตูไปที่ห้องหนึ่ง เตียงกว้างหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง ทั้งห้องถูกตกแต่งด้วยสีโทนขาวดำ มุมหนึ่งของห้องเป็นชั้นหนังสือสูงจรดเพดาน มีโซฟาเดี่ยวตัวใหญ่สีแดงสดตั้งไว้ด้านหน้า อีกด้านเป็นชุดเครื่องเสียงและโฮมเธียร์เตอร์ ทีวีจอยักษ์ติดผนังกับลำโพงแสนแพง ตั้งอยู่ตรงนั้น ฮั่นเกอจับผมนั่งที่ปลายเตียง ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่พูดอะไร
ผมนั่งมองไปรอบ ๆ ห้องอย่างไร้จุดหมาย ถ้าในภาวะปกติผมคงดีใจที่ได้เห็นห้องนอนส่วนตัวของเกอ ห้องหรูหรา แสนเรียบง่ายและสงบ ผมพาตัวเองไปหยุดที่มุมเครื่องเสียง หยิบแผ่นเสียงแบบสุ่ม ๆ แล้วยัดเข้าใส่เครื่องเล่น หวังว่าเสียงเพลงจะทำให้ผมสงบมากขึ้น แต่เสียงเพลงที่ออกมากลับทำให้ผมชะงัก
เสียงผมนี่นา
ผมฟังเพลงไปเรื่อย ๆ เปลี่ยนแผ่นไปเมื่อเพลงจบลง แต่ไม่ว่าผมจะเปลี่บยแผ่นไปกี่แผ่น ฟังไปกี่เพลง แผ่นที่ผมหยิบขึ้นมา มันก็เป็นเสียงของผมทั้งนั้น
“อาเสียง” เสียงเรียกของฮั่นเกอทำให้ผมหยุดมือที่กำลังจะเปลี่ยนแผ่นอีกครั้ง ผมละมือออกจากเครื่องเล่น ปล่อยให้เพลงในแผ่นนี้ดำเนินต่อไป ก่อนจะเดินไปหาฮั่นเกอที่ยืนอยู่หน้าประตู ถือแก้วคอกเทลไว้ …..B52 ของโปรดของผม
“แม้แต่เหล้าแก้วโปรดของผม เกอก็รู้หรอ”
“แก้วนี้ไม่ได้ชื่อ B52 หรอกอาเสียง แก้วนี้น่ะชื่อ Forget it ต่างหาก”
“ถ้าดื่ม จะลืมได้จริงหรอเกอ”
“ไม่ได้หรอกอาเสียง ลืมไม่ได้หมดหรอก”
“เกอ เกอทำให้ผมลืมได้ไหม ทำอย่างไรก็ได้ให้ผมลืม เกอ
เกอช่วยผมนะ”
เกอช่วยผมนะ”
ผมหยิบเหล้าที่ฮั่นเกอยกมากระดกเข้าลำคออย่างรวดเร็ว ความร้อนผ่าวของคอกเทลลวกลำคอ เผาผลาญสติจนมอดใหม้ ความเศร้าเสียใจ และเสียงเพลงของตัวเองที่ดังออกมาจากเครื่องเล่น ผลักดันให้ผมทำสิ่งที่ในชีวิตนี้ผมไม่เคยคิดที่จะทำ ผมเดินไปชิดฮั่นเกอ ใช้สองแขนโอบรอบลำคอ กดจูบเบา ๆ ที่มุมปากอีกฝ่าย
จางฮั่นตัวแข็ง เขาไม่คิดว่าเฉินเสียงจะใช้วิธีนี้ มือเรียว ๆ ของอีกฝ่ายที่ลูบไล้ไปทั่วตัวทำให้เขาเริ่มเตลิดเกินกว่าจะระงับสติ
“อาเสียง แน่ใจนะว่าต้องการแบบนี้”
“แน่ใจเกอ ผมแน่ใจว่าเกอจะทำให้ผมลืมได้”
“อาเสียง เกอไม่ใช่ตัวแทนหยางหยางนะ”
“ผมก็ไม่คิดว่าเกอเป็นตัวแทนใคร ถึงผมจะไม่เคยรู้ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว ผมควรรักคนที่รักผม ใช่ไหมเกอ เกอรักผม เกอจะไม่ทำให้ผมเจ็บใช่ไหม เกอสัญญากับผมสิ”
“อาเสียง ถ้าแน่ใจ เกอจะไม่หยุดนะ ถึงจะร้องขอยังไงก็เถอะ”
“ผมเชื่อใจเกอ”
“งั้นก็จำไว้ คิดถึงแต่เกอ เกอจะทำให้อาเสียงไม่มีวันได้คิดถึงคนอื่นอีก”
จางฮั่นมองตาเฉินเสียงอย่างไม่สั่นไหว ไม่มีอาการไม่แน่ใจในแววตา เขาจ้องมองเข้าไปในแววตาหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในใจเขามาเนิ่นนาน แต่ไม่เคยคิดครอบครอง ถึงแม้จะเจ็บแปล๊บ ๆ ทุกครั้ง ที่เห็นอีกฝ่ายหัวเราะมีความสุขที่เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เขาก็มียังยิ้มได้ที่ได้ยินอีกฝ่ายร้องเพลง
จางฮั่นก้มลงไปประกบริมฝีปากคนตรงหน้าที่ยังเอาแขนทั้งสองข้างคล้องไว้กับคอของเขา เฉินเสียงตอบโต้อีกฝ่ายด้วยความหนักแน่น ร้อนเร่าราวไฟในแอลกฮอล์ที่ถูกจุดขึ้น ความไว้เนื้อเชื่อใจถูกส่งผ่านจูบรุกเร้านั่น เฉินเสียงเสนอสนองริมฝีปากตอบรับเรียวลิ้นที่สอดแทรกเข้ามาในโพรงปาก ความหวานฉ่ำถูกส่งผ่านกันและกัน รู้ตัวอีกทีเฉินเสียงก็ดันอีกฝ่ายลงไปนั่งแปะอยู่ที่เตียงกว้าง จางฮั่นไม่ได้ยอมแพ้ มือร้อน ๆ ลูบไปทั่วตัว ถกถอดเสื้อผ้าที่มีติดกายอีกฝ่ายออกไป จับเฉินเสียงนั่งลงกับตักกว้าง ริมฝีปากร้อน ๆ ไล่ไปตามลำคอ ระเรื่อยไปกระซิบกับเฉินเสียง
“ต่อจากนี้ให้ตายก็ไม่มีวันหยุดนะอาเสียง”
“ผมไม่เปลี่ยนใจแน่เกอ”
เฉินเสียงตอบโต้ทันใจ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อมือร้อน ๆ ลากผ่านสันหลังจนต้องแอ่นกายเสนอแผ่นอกขาว ๆ ให้จางฮั่นชิมรส ลิ้มลองความหวานอย่างช้า ๆ ละเลียดโลมเลียด้วยความอ่อนหวาน แต่แฝงความร้อนเร่าและตีตราเป็นเจ้าของจากการขบเม้มหนัก ๆ ก่อนเฉินเสียงจะถูกพลิกตัวลงไปนอนกับเตียง จางฮั่นตามติดไปมอบความหวามไหวไม่หยุดยั้ง เสียงครางหวาน ๆ เคล้าไปกับเพลงเจ้าของเสียงจนจางฮั่นไม่เหลือสติสัมปชัญญะใดใด เหลือไว้เพียงความอ่อนหวาน ที่พร้อมจะทำให้อาเสียงของเขา ลืมเลือนเรื่องทุกอย่าง จดจำได้เพียงแต่เขาคนเดียวเท่านั้น
หยางหยางตื่นขึ้นมาในตอนบ่ายของอีกวันด้วยอ้อมกอดอุ่น ๆ ของคนข้าง ๆ อี้เฟิงยังคงนอนซบกับไหล่หยางหยาง หลับตาพริ้มอย่างสบายอารมณ์ ทั้งที่เมื่อคืนออกจะโวยวายให้พอแท้ ๆ เชียว ทีตอนนี้กลับมานอนหลับสบาย หยางหยางมองอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดู ยกมือขึ้นบีบจมูกอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนจะค่อย ๆ ขยับตัวลุกจากเตียงมาจัดการตัวเอง เขาเข้าไปอาบน้ำอย่างสุขใจ ถึงจะแสบหลังไปบ้างแต่ก็ถือเป็นรอยแมวข่วนเล็ก ๆ ที่ยังไงก็ไม่รู้สึกเจ็บ แล้วจึงออกมาปลุกอี้เฟิงให้ลุกไปอาบน้ำ
“คนดี ตื่นเถอะครับ อาบน้ำก่อน เดี๋ยวผมลงไปหาอะไรให้ทาน”
“อื้อ” อี้เฟิงรู้สึกตัว แต่ไม่อยากลุก เขาปวดไปทั้งตัว ยังโชคดีที่ก่อนจะได้หลับ พ่อบาร์เทนเดอร์มีแก่ใจทำความสะอาดร่างกายให้ ไม่เช่นนั้นคงจะอึดอัดจนหงุดหงิดต้องฟ้อนเล็บใส่แน่ ๆ
“ลุกก่อนนะครับ ถ้าไม่ลุก อดทนข้าว แต่ต้องมาเป็นของหวานให้ผมนะ”
อี้เฟิงได้ฟังก็เด้งตัวขึ้นมาจากเตียง เรื่องอะไรเขาต้องมาเป็นของหวานให้บาร์เทนเดอร์คนหื่นด้วยล่ะ แค่นี้ยังไม่พอหรือไง
หยางหยางที่เห็นอี้เฟิงลุกขึ้นมาก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
บรรยากาศวันนี้ช่างสดใส เขามองคนรักหมาด ๆ ด้วยความเอ็นดู หน้าหวาน ๆ ยู่ยี่งอแงแบบคนเพิ่งตื่น ผมสีน้ำตาลกระเซอะกระเซิงเล็กน้อย ปากแดง ๆ ที่บวมเจ่อจากฝีมือเขา และรอยจูบมากมายทั่วแผ่นอก เขามองจนอี้เฟิงต้องตลบผ้าห่มคลุมตัวเองแล้วสบถอุบอิบได้ยินแว่ว ๆ ว่าลามก ผมปล่อยให้เขาเดินเข้าห้องน้ำ สายตาผมยังอ้อยอิ่งไปทั่วแผ่นหลังที่มีรอยรักสีแดงเป็นจ้ำ ๆ ไล่เรื่อยมายังบั้นท้าย รอยฟัน รอยขบกัดยังมีให้เห็นประปราย และขาอ่อนด้านในอีกหลายจุด ผมรีบละสายต่อออกจากร่างอีกคน ก่อนที่เสียสติพุ่งเข้าไปฟัดร่างขาว ๆ นั่นอีกครั้ง
ถ้าเป็นแบบนั้นต้องโดนงอนแน่ ๆ
หยางหยางลงไปเตรียมอาหารให้แมวในระหว่างที่อีกฝ่ายกำลังชำระร่างกาย และพร้อมลงมาทานอาหารด้วยกัน เขาเตรียมคอกเทลเย็น ๆ รสชาติหนักไปทางผลไม้เพิ่มความสดชื่นให้อีกฝ่ายเจริญอาหาร ซึ่งอี้เฟิงยิ้มหวานเป็นรางวัล ก่อนที่ผมจะมองนาฬิกาเมื่อเห็นว่าใกล้เวลาที่ผมต้องเตรียมตัวไปทำงานแล้ว จึงบอกให้อีกฝ่ายพักผ่อนอยู่ที่บ้านผมก่อน แต่ถูกอี้เฟิงปฏิเสธว่าจะกลับไปจัดการธุระส่วนตัวที่บ้านเตรียมไปทำงานพรุ่งนี้เหมือนกัน ผมจึงตามใจอีกฝ่าย หลังจากที่ไปส่งอีกฝ่ายที่บ้านแล้วจึงเลยไปทำงาน ลืมเรื่องที่เฉินเสียงมาเตือนไปเสียสนิท.....
--------- To be Continue---------
อะไรกันนี่ตอนนี้ โฮรวววววววว
ตอบลบเป็นฝั่งเป็นฝากันไปทั้งคู่ ทั้งอี้เฟิงทั้งอาเสียงเลย
ตอนฮั่นเกอตัดพ้อว่าไม่ใช่ตัวแทนของหยางหยางนะ คือจะร้องไห้อะ อินมาก >///<