Drunk in Love 2 : Coincidence

DRUNK IN LOVE
(AU : YangFeng Fiction) : Essorhino




คำเตือน : ฟิคเรื่องนี้ ชายรักชายนะคะ แล้วก็เป็นจินตนาการของผู้แต่งเท่านั่น โปรดใช้วิจารณญาณค่ะ



บทที่ 2 : Coincidence








CR.Pic : http://www.thesquareclub.com/cocktail-bar-bristol/

          วันนี้เป็นวันหยุดของผม ในหนึ่งสัปดาห์ผมจะเลือกวันหยุดได้ 1 วัน และสัปดาห์นี้ ผมเลือกหยุดวันอาทิตย์ ผมตื่นมาในช่วงสายของวันด้วยความสดชื่น ถึงแม้เมื่อคืนลูกค้าจะเยอะ แต่ความสนุกที่ยังตกค้างจากวันศุกร์ฉุดให้ผมทำงานต่อไปอย่างสบายใจ


          หลังจากที่ผมจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อย กระเพาะของผมก็ส่งเสียงประท้วง ผมเปิดตู้เย็นทำอาหารง่าย ๆ ให้ตัวเอง เป็นแซนด์วิชแฮมชีสสองคู่ใหญ่ เตรียมใส่ตะกร้าหน้าจักรยาน พร้อมปั่นออกไปเปลี่ยนบรรยากาศการกินที่สวนสาธารณะใกล้ ๆ บ้าน


          ระหว่างทางการปั่นจักรยานไปสวนสาธารณะ ลมเย็น ๆ ปะทะใบหน้าทำให้ผมอารมณ์ดีขึ้น เพลงสบาย ๆ ที่ก้องอยู่ในหูฟังช่วยให้ผมผ่อนคลาย ผมฮัมเพลงไป ปั่นจักรยานไป ไม่นานก็มาถึงสวนสาธารณะ ผมเลือกมุมหนึ่งริมทะเลสาบที่คนไม่เยอะ จอดจักรยานไว้ข้างต้นไม้ ปูเสื่อ และนั่งทานแซนด์วิช พร้อมน้ำมะนาวเย็น ๆ ที่แวะซื้อมาข้างทาง


          ผมกินแซนด์วิชไปได้คู่เดียว ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังแทรกขึ้นมาขัดจังหวะการกิน


          “ว่าไง เฉินเสียง นี่ยังไม่เที่ยง ทำไมตื่นได้ล่ะ” ผมทักอีกฝ่ายทันทีที่รับโทรศัพท์


          “ก็ตื่นแล้วนี่ หิวข้าว เลยโทรหานาย” เสียงปลายสายตอบกับมา

          “นายหิวข้าว เกี่ยวอะไรกับฉันละ”

          “ก็จะไปฝากท้องบ้านนายไง นี่อยู่ไหน ไม่ได้อยู่บ้านหรอ”

          “เปล่า ออกมาข้างนอก วันนี้ฉันหยุด”

          “อ้อ งั้นฉันไปฝากท้องบ้านสาว ๆ ก็ได้ บาย”

          พอพูดจบอีกฝ่ายก็วางสายไปโดยไม่ทันฟังผมต่อ ผมส่ายศีรษะและเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกง อิ่มเสียแล้ว จึงเก็บแซนด์วิชอีกชิ้นไว้ แล้วล้มตัวลงนอน พอใจกับลมเย็น ๆ  บรรยากาศสบาย ๆ และเพลงเพราะ ๆ ที่ก้องอยู่ในหู ในช่วงจังหวะที่ผมกำลังเคลิ้ม ๆ อยู่ ๆ บรรยากาศรอบตัวของผมก็รู้สึกหวานขึ้น ผมลืมตาขึ้นมาอย่างแปลกใจ


          “คุณอี้เฟิง!” ผมอุทานเมื่อเห็นคนตรงหน้าจอดจักรยานของเขาข้าง ๆ ของผม


          “สวัสดีครับ คุณบาร์เทนเดอร์ บังเอิญจังเลยนะครับ” คุณอี้เฟิงทักผมพลางยิ้มกว้างจนตาเป็นประกาย ผมไม่คิดเลยว่าจะได้เจอคนตรงหน้าในวันนี้ บังเอิญจริง ๆ ด้วยสินะ


          “บังเอิญจริง ๆ แหล่ะ ครับ คุณอี้เฟิง นั่งก่อนสิครับ” ผมพูดพลางขยับตัวนั่งให้มีที่ว่างบนเสื่อพอสำหรับอีกคน


          “วันนี้ไม่ทำงานหรอคุณบาร์เทนเดอร์” คุณอี้เฟิงนั่งลงแล้วเอนหลังมาพิงกับไหล่ผม ก่อนเอ่ยถามออกมา


          “ครับ วันนี้ผมหยุด ปกติหยุดวันธรรมดา สัปดาห์นี้เลือกหยุดวันอาทิตย์ ก็เลยอยากออกมาข้างนอกบ้านบ้างนะครับ คุณอี้เฟิงมาที่นี่บ่อยหรอครับ”


          “ก็ ผมหยุดทุกเสาร์-อาทิตย์ ถ้าว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำก็จะออกมาปั่นจักรยานเล่นแถวนี้ละครับ อ๊ะ นี่แซนด์วิชคุณทำหรอ น่ากินจัง” คนข้าง ๆ ตัวผมพูดไปเรื่อย ๆ จนสายตาสะดุดกับกล่องแซนด์วิชของผม


          “ลองทานไหมครับ” ผมเอื้อมมือไปหยิบแซนด์วิชส่งให้ คนข้างตัวผมไม่ปฏิเสธ หยิบแซนด์วิชไปกินแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เอนตัวนั่งพิงไหล่ผมอย่างสบายใจ บรรยากาศรอบ ๆ ตัวผมที่สัมผัสได้ เปลี่ยนจากสีเขียว สบาย ๆ ไปเป็นสีพีช หวานอมเปรี้ยวนิด ๆ ให้ความสดชื่น ผมนั่งมองคุณอี้เฟิงกินแซนด์วิชจนหมดจึงส่งน้ำมะนาวที่เริ่มคลายความเย็นให้ ซึ่งอีกฝ่ายก็รับไปดื่มด้วยความยินดี


          “อร่อยจังเลยนะ คุณบาร์เทนเดอร์นี่เก่งจัง ทำอะไรก็อร่อย ขนาดน้ำมะนาวยังอร่อยเลย” ผมยิ้มกับคำพูดคุณอี้เฟิงพลางเอ่ยแก้


          “แซนด์วิชอ่ะผมทำครับ แต่น้ำมะนาวน่ะ ผมซื้อ ฮ่าๆ” ผมหัวเราะเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหน้าแดง


          “ก็ทำไมไม่บอกละ” คุณอี้เฟิงพูดเสียงสะบัดใส่ผม ดูเหมือนจะงอนเลยนะเนี่ย ผมต้องง้อเสียหน่อย เดี๋ยวบรรยากาศดีดีรอบตัวเราจะเปลี่ยนไป


          “ฟังเพลงไหมครับ” ผมพูดพลางยื่นพูฟังอีกข้างให้ คุณอี้เฟิงรับไปใส่หู แล้วฉุดผมล้มตัวลงนอนเคียงกันบนเสื่อ


          “แบบนี้ดีจังเลย ฟังเพลงเพราะ ๆ กินอิ่ม ๆ นอนสบาย ๆ” อีกฝ่ายพูดแล้วหลับตา ปล่อยใจไปกับเสียงเพลงและสิ่งรอบตัว ผมเงียบ และหลับตาลงบ้าง



-----------------------------------------------------------------


          ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะรู้สึกเมื่อย ๆ ตรงไหล่ขวา พอมองไปที่สาเหตุก็พอเข้าใจ กลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มทับอยู่บนบ่าของผม ผมยกมือซ้ายมองนาฬิกา บ่ายสามโมงกว่า


          “คุณอี้เฟิง ตื่นเถอะครับ จะบ่ายสี่โมงแล้ว”


          เจ้าของผมสีน้ำตาลขยับศีรษะเล็กน้อย ลุกขึ้นนั่ง ขยี้ตา แล้วมองผมอย่างง่วง ๆ ผมใจกระตุก ทำไมน่ารักขนาดนี้


          “หิวแล้ว” เสียงหวาน ๆ เอ่ย


          “งั้นไปหาอะไรทานกันครับ คุณอี้เฟิงอยากทานอะไร”


          “อยากกิน... อะไรก็ได้ ที่คุณบาร์เทนเดอร์ทำ”


          “จะดีหรอครับ ผมทำกับข้าวไม่เก่งมากหรอกครับ ที่บ้านไม่ได้เตรียมอะไรตุนไว้เสียด้วย”


          “นะครับ” คุณอี้เฟิงพูดแค่นั้น แล้วเอาแต่มองผม บรรยากาศเปลี่ยนไปอีกแล้ว คราวนี้เป็นสีเหลืองนวล ๆ ให้ชวนใจอ่อน จนผมยอมแพ้


          “ครับ แต่ต้องไปซื้อของสดก่อนนะครับ”


“อื้อ”


ว่าแล้วเราสองคนก็ลุกขึ้น ช่วยกันม้วนเสื่อ เก็บของใส่ตะกร้า แล้วปั่นจักรยานไปซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ ๆ ซื้อของกลับมาเตรียมทำอาหาร


ผมเลือกซื้อของหลายอย่าง คิดว่าจะทำอาหารง่าย ๆ สำหรับสองคน มีคุณอี้เฟิงช่วยเลือกวัตถุดิบ เมื่อพอใจกับของทั้งหมดในรถเข็น จากนั้นก็พากันไปชำระเงิน แต่เราก็มีปัญหาเล็ก ๆ คือเถียงกันว่าใครจะเป็นคนออกค่าของสด จนสุดท้ายผมต้องยอมแพ้คนตรงหน้าอีกครั้ง เมื่อบรรยากาศรอบตัวคุณอี้เฟิงเริ่มขุ่นมัว สงครามน้ำลายเล็ก ๆ นั้นจึงจบลง
          

       เราสองคนออกจากซุปเปอร์มาร์เก็ตก็เป็นเวลาสี่โมงกว่า ๆ แล้ว จึงพากันปั่นจักรยานด้วยความเร็วมากกว่าขามามากหน่อย จนสุดท้ายเราก็มาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านผม
              

      ผมเชื้อเชิญคุณอี้เฟิงเข้าไปในบ้าน นำอีกฝ่ายไปที่ห้องนั่งเล่น
         

         “รอซักครู่นะครับ เดี๋ยวผมทำกับข้าวให้ทาน ตามสบายนะครับ” ผมหมุนตัวหอบหิ้วถุงน้อยใหญ่บรรจุของสดเข้าไปในครัว ก่อนจะไปหยุดที่บาร์เครื่องดื่ม หยิบเหล้าขาว น้ำมะนาว น้ำเชื่อม โซดาเย็น น้ำแข็ง ผสมกันแล้วเทใส่แก้วตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ แล้วยกไปให้แขกพิเศษของผม


          “Mojito ครับ ปั่นจักรยานมาเหนื่อย ๆ จะได้สดชื่น ดื่มแก้วนี้ก่อนทานข้าว ช่วยเจริญอาหารด้วยนะครับ” คุณอี้เฟิงรับแก้วไปจากผม จิบช้า ๆ แล้วผ่อนลมหายใจ ผมเห็นดังนั้นจึงเดินกลับเข้าครัว เริ่มต้นทำอาหาร


          “มีอะไรให้ช่วยไหมครับ”


ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที แขกของผมเดินเข้ามาหยุดอยู่ที่เคาน์เตอร์ครัว หยุดมองผมที่กำลังต้มเส้นสปาเก็ตตี้ หั่นไก่เตรียมทำซอส


          “ไม่เป็นไรครับคุณอี้เฟิง มื้อนี้ผมโชว์ฝีมือเอง เมนูนี้งานถนัดของผม เบื่อหรอครับ”


“ไม่ได้เบื่อมาก แต่อยากดูคุณทำอาหารมากกว่า”


“จะเสร็จแล้วครับ นั่งรอตรงนี้ก็ได้ ผมพยักเพยิดให้อีกฝ่ายนั่งที่ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ จากนั้นก็ทำอาหารต่อไปจนเสร็จ เงยหน้ากลับมาอีกที ก็เห็นคุณอี้เฟิงฟุบหน้าลงกับเคาน์เตอร์หลับไปอีกแล้ว


นอนเก่งจริง ๆผมคิดในใจพลางตักสปาเก็ตตี้ใส่จานไปวางบนโต๊ะ แล้วเดินไปปลุกคนขี้เซาให้มาทานข้าวด้วยกัน ซึ่งหลังจากที่รับประทานอาหารด้วยกันจนเสร็จ คุณอี้เฟิงก็อาสาจะล้างจานตอบแทนข้าวเย็นของเรา


“วันนี้ขอบคุณมากนะคุณบาร์ กับข้าวอร่อยมาก”


“ไม่เป็นไรครับคุณอี้เฟิง เจอกันคราวหน้า ไม่ต้องรอบังเอิญก็ได้นะครับ รู้จักบ้านผมแล้วนี่นา”



“อี้เฟิง คราวหน้าเรียกแบบนี้นะคุณบาร์ อ้อ....แล้วโลกนี้ ความบังเอิญเป็นความบังเอิญจริง ๆ หรอครับ ผมไปละ” คนผมน้ำตาลเดินออกประตูบ้าน คร่อมจักรยาน แล้วปั่นออกไป ทิ้งท้ายไว้แต่บรรยากาศอ้อยอิ่งของความน่ารักของอีกฝ่าย







ความบังเอิญ คือความบังเอิญจริงหรอ... 







ความคิดเห็น

  1. เปิดตอนมาด้วยแซนด์วิชแฮมชีสนี่ฆ่ากันเลยดีกว่า
    เราชอบบรรยากาศแบบในสวนสาธารณะอ่า อบอุ่นละมุนๆดี
    นอนฟังเพลงจากหูฟังคนละข้างโคตรโรแมนติกเลย
    อี้เฟิงนี่มาเหนือนะ ดูแผนสูง อยากกินข้าวฝีมือหยางหรืออยากไปบ้านเค้ากันแน่ ชิชะ 555

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Fic: (AU) ถิงออล : นายพลหื่น #1

Fic: (AU) ถิงออล : นายพลหื่น #3

(AU) SF FIC : TO BE LOVE #เกอกินเด็ก : #2 [ถิงหยวน]