AU Special Project: LOVE SCENE [ดาดฟ้า] #หยางเฟิง
AU Special
Project: LOVE SCENE #หยางเฟิง
ShotFic By :
Essorhino
Location : ดาดฟ้า
Rate : ------ฉ-------
Warning : ฟิคเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ
ชายรักชาย และเป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง ไม่เกี่ยวข้องกับความจริงแต่อย่างใด
แสงสียามค่ำคืนของเซี่ยงไฮ้ในยามดึกสงัด ยังคงเป็นสีสันที่งดงามเสมอเมื่อผมมองมันผ่านดาดฟ้าของโรงแรม
ลมเย็น ๆ พัดเข้ามาโดนผิวชวนให้รู้สึกหนาว นี่ถ้าได้ไวน์รสนุ่ม ๆ มาจิบก็คงไม่เลว
ผมคิด ถ้าลงไปเรียกให้พนักงานเอามาเสิร์ฟ จะได้ไหมนะ
ผมเป็นนักท่องเที่ยว เวลาที่ผมบินมาที่เซี่ยงไฮ้
ผมจะมาพักที่โรงแรมนี้ เพราะเจ้าของโรงแรมเป็นรุ่นพี่ของผม เข้ามักจะจัดห้องสูทให้ผมทุกครั้งที่ผมมาพัก
ทั้ง ๆ ไม่จำเป็นเลย ผมเคยเถียงอยู่หลายครั้งว่าไม่ต้อง แต่เขาไม่ยอม
ยื่นคำขาดว่าถ้าไม่อยากจะนอนห้องที่ดีที่สุดของโรงแรม เขาก็จะไม่ให้ผมเข้าพักเลย
ผมจึงต้องยอมตามใจพี่ชายคนดื้อของผม
ผมเดินกลับไปที่ห้อง สั่งรูมเซอร์วิสให้นำไวน์ขึ้นมาให้ผมตามที่คิดไว้
ก่อนจะเดินไปอาบน้ำชำระร่างกาย เมื่อได้ยินเสียงคนเคาะประตู
ผมเพิ่งอาบน้ำเสร็จจึงหยิบเพียงผ้าขนหนูพันกายแล้วเดินไปเปิดประตู
คนที่นำไวน์มาให้ผม
เป็นผู้จัดการโรงแรมที่ผมอ่านป้ายชื่อตรงหน้าอก “หลี่อี้เฟิง”
ผมเงยหน้าจากป้ายชื่อมองอีกฝ่ายอย่างสำรวจ ที่ผมเห็นคือใบหน้าหวาน
น่ารักราวกับตุ๊กตา ริมฝีปากแดงสวย แก้มเนียนระเรื่อ กับดวงตากลมโตใส
ที่มองผมอย่างตื่นตะลึง ผมนึกขึ้นได้ว่าผมยังไม่ได้แต่งตัว
มีเพียงผ้าขนหนูของโรงแรมพันท่อนล่างไว้เท่านั้น ผมพยักหน้าให้คุณผู้จัดการเข็นรถที่มีถังไวน์ตั้งอยู่เข้ามาในห้อง
ก่อนปิดประตูตามหลัง เดินนำเข้ามาในห้อง
และนั่งลงตรงปลายเตียง โดยที่ยังไม่ได้แยกไปแต่งตัว
“คุณหยางหยางสั่งไวน์นะครับ
ตอนนี้ทางโรงแรมขอเสนอ Chateau Lafite Rothschild
เป็นไวน์ระดั้บชั้นหนึ่ง กรอง ครู คลาสเซ่ จากฝรั่งเศษ มีความหอมอันจรุงใจที่มีกลิ่นดอกไม้และผลไม้,
กลิ่นแบล็กเคอร์เร้นท์, กลิ่นไม้ซีดาร์ และกลิ่นยาสูบ ขวดนี้เป็นของปี 1992
ครับ”
คุณผู้จัดการโรงแรมว่าอย่างคล่องแคล่ว
เห็นได้ชัดว่าศึกษามาอย่างดี ก่อนจะเปิดขวดไวน์ และ รินลงในแก้ว ยื่นมาให้ผม ผมรับแก้ว
หมุนแก้วไวน์เพื่อดูสีของไวน์ ดมกลิ่นหอม ๆ ก่อนจะจรดแก้วที่ริมฝีปาก
อมไวน์ที่ดื่มไว้เพื่อให้กระจายทั่วปาก ล้ิมรสไวน์ช้า ๆ แล้วกลืนลงคอไป
“เป็นอย่างไรบ้างครับ
คุณหยางหยาง ถูกใจไหมครับ”
“ก็ดีครับ แต่จะให้ดี
ต้องมีคนนั่งดื่มด้วยกัน” ผมมองคนตรงหน้าอย่างมีความหมาย
แลบลิ้นเลียริมฝีปากเพื่อเก็บรสไวน์ท่ียังคั่งค้างอยู่
“คุณต้องการให้ผมเรียกใครสักคนให้ไหมครับ”
ผู้จัดการตรงหน้ายังทำหน้าที่แบบไม่ขาดตกบกพร่อง แต่ไม่รู้เลยเชียวหรอ
ว่าผมต้องการให้ ‘ใคร’
ดื่มกับผมกันแน่
ผมเห็นผู้จัดการคนนี้อยู่หลายครั้ง
เวลาที่ผมมาพักที่นี่ อดมองไม่ได้อยู่หลายครา ปากแดง ๆ นั่นเอ่ยคำต้อนรับ
ยิ้มแย้มใส่แขก เสียงหวาน ๆ ที่ผมได้ยินจนจินตนาการถึงเสียงร้องเวลาอยู่บนเตียง
แก้มใส ๆ ตัวขาว ๆ จะเป็นยังไงนะถ้ามีร่องรอยแต่งแต้มบนตัว
ผมหยุดความคิดอันตรายก่อนที่เผลอตัวทำอะไรลงไป
หันไปมองคุณผู้จัดการคนน่ารักที่ยังยืนหน้าแดงมองผมที่นั่งเปลือยท่อนบนอยู่บนเตียง
ผมยิ้มออกมาอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าผมเขิน ผมค่อนข้างมั่นใจในรูปร่างของตัวเอง
จึงกล้าที่จะอวดมันกับคนตรงหน้า ใช่ ผมจงใจไม่ไปแต่งตัว…
“เป็นคุณได้ไหมคุณผู้จัดการ นั่งดื่มเป็นเพื่อนผมหน่อยสิ
ถ้าไม่สะดวกในดื่มในห้องนี้ บนดาดฟ้าก็ได้นะ ผมไม่เกี่ยง”
“ผมยังอยู่ในเวลาทำงานครับคุณหยางหยาง
ผมไม่สามารถดื่มเป็นเพื่อนคุณได้”
“คุณเลิกงานกี่โมง คุณผู้จัดการ”
“ตีห้าครับ” ผมมองนาฬิกา ตีหนึ่ง
“ถ้าผมจัดการเรื่องงานของคุณได้ คุณต้องมานั่งดื่มกับผม
ตกลงนะ” ผมพูด และไม่รอคำปฏิเสธ เอื้อมมือไปหยิบสมาร์ทโฟน
ต่อสายถึงรุ่นพี่เจ้าของโรงแรม
“เกอ
ผมยิืมตัวผู้จัดการโรงแรมเกอนั่งดื่มไวน์ซักคืนสิ”
“หึ หยางหยาง
ผู้จัดการฉันคนนั้นไร้เดียงสานะ อย่ารุนแรงล่ะ”
“เกอรู้หรอ ว่าคนไหน”
“ฉันเป็นพี่แกมากี่ปี
ทำไมจะไม่รู้ว่าแกเป็นคนแบบไหน”
“ผมไม่รับปากแล้วกัน แต่จะพยายามนะ อ้อ
ถ้ายังไงก็หาใครมาทำงานแทนพรุ่งนี้ไว้เลยละกันนะเกอ ขอบคุณมาก”
ผมวางสาย
แล้วหันไปยิ้มกับคุณผู้จัดการ
“เอาละ คุณ อี้เฟิงใช่มั้ย
ผมจัดการเรื่องงานให้คุณได้แล้วล่ะ จะดื่มที่ไหนล่ะ ที่นี่ หรือดาดฟ้า”
“คุณ!” คนตรงหน้ามองหน้าผมอย่างตื่นตะลึง แต่พอผมจ้องตาเขา
เขาก็เงียบไป
“ดาดฟ้าก็ได้ครับ
เดี๋ยวผมจะไปเตรียมพื้นที่ให้ รบกวนคุณแต่งตัวก่อนแล้วค่อยตามไปก็ได้”
“ขอบคุณครับคุณผู้จัดการ”
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หัวใจผมจะวาย ตั้งแต่ที่รู้ว่าห้องสูทที่วันนี้มีคนคนนั้นมาเข้าพัก
มีการเรียกรูมเซอร์วิสเพื่อสั่งไวน์
เขารีบเดินไปบอกลูกน้องในบังคับบัญชาว่าจะเป็นคนอาสาเอาไปให้แขกคนนี้เองโดยอ้างเหตุผมว่าเขาเป็นแขกพิเศษของเจ้าของโรงแรม
ซึ่งบรรดาลูกน้องของผมก็เข้าใจ จึงไม่ได้คัดค้านอะไร
ผมตกหลุมรักแขกพิเศษคนนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเข้ามาพักที่นี่
ผมเป็นคนรับคำสั่งให้พาเขาไปที่ห้องสูทและดูแลอย่างดี ผมเดินไปต้อนรับ และ
พร้อมจะอำนวยความสะดวกโดยการช่วยเขายกกระเป๋าใบเขื่องของอีกฝ่าย
แต่คุณหยางหยางกลับยิ้มใส่ตาผม แล้วบอกว่า
“ตัวเล็กแค่นี้จะหิ้วไหวได้ยังไง นำทางไปเถอะ”
ผมเหลือบตามองอีกฝ่ายจนกระทั่งไปถึงห้องพัก และปล่อยให้เขาพักผ่อน
หลังจากนั้นอีกหลายครั้งที่เขาแวะมาพักที่นี่ บางครั้งผมถึงจะมีโอกาศได้ต้อนรับ
และพาเขามาที่ห้อง แต่ก็เท่านั้น หลังจากนั้นก็ไม่มีการสนทนาใดอีกเลย
ผมจึงได้แต่แอบมองอย่างเงียบ ๆ
วันนี้หลังจากที่เข็นรถบรรจุไวน์มาที่หน้าห้อง
ยืนทำใจอยู่นานกว่าจะกดกริ่งเรียกให้คนในห้องทราบถึงการมาของผม แต่แล้วพอประตูเปิดออกมา
ผมถึงกับคิดว่าเลือดทั้งร่างกำลังไหลมารวมอยู่บนหน้า
ร่างกายสมส่วนที่ยืนพิงกรอบประตู ผมเปียก ๆ กับหยดน้ำที่พราวอยู่บนแผ่นอกแน่น ๆ
สายตาผมไพล่ลงมองมาที่กล้ามท้องที่มีซิกซ์แพ็คเรียงกัน
เอวสอบที่หายลับไปกับแนวผ้าขนหนูทำเอาผมใจเต้นผิดจังหวะ
ก่อนรวบรวมลมหายใจเอ่ยทักอีกฝ่าย คุณหยางหยางพยักหน้าให้ผมเข้าไปในห้อง
แล้วเดินนำผมเข้าห้องนอน ผมคิดว่าอีกฝ่ายจะขอตัวไปแต่งตัว
กลับต้องแปลกใจเมื่อเขาเดินไปนั่งที่ปลายเตียง ผมจึงทำได้แค่เสนอไวน์ให้เขาชิม เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีพอใจกับไวน์
ผมจึงเตรียมจะเดินออกไป แต่ก็ได้ยินถ้อยคำชวนให้หัวใจเต้นผิดจังหวะอีกครั้ง
‘จะให้ดี ต้องมีคนนั่งดื่มด้วยกัน’
ผมข่มใจไม่ให้ออกอาการกระสับกระสาย
กระแสความร้อนแรงของน้ำเสียงและแววตาของเขาที่มองมาทำให้ผมใจเต้นระรัวแบบควบคุมไม่ได้
แต่เมื่อไม่สามารถทำได้ จึงได้แต่เบี่ยงประเด็นออกไปอีกครั้ง แต่สุดท้าย
ผมก็พ่ายแพ้
ผมเดินออกจากห้องสูทด้วยใจที่ไม่สงบ
เหงื่อชื้นขึ้นตรงแผ่นหลัง ผมก้าวออกมาที่ดาดฟ้า สูดลมเย็น ๆ
ของบรรยากาศเพื่อให้จิตใจสงบลง เตรียมพื้นที่สำหรับนั่งจิบไวน์ในค่ำคืนนี้
แล้วนั่งรอแขกพิเศษของผม
ผมเดินเข้าไปแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าง่าย
ๆ ก่อนจะเดินไปที่ดาดฟ้าของโรงแรมที่เงียบสงบ ล็อกประตูดาดฟ้า
และเดินเข้าไปหาคนที่กำลังนั่งทอดอารมณ์อยู่กับบรรยากาศสบาย ๆ
“ไวน์หายเย็นหมดแล้วมั้งครับ”
ผมทักอีกฝ่าย
“ไม่หรอกครับ
ผมแช่น้ำแข็งไว้ในถังแล้ว รับไวน์เลยนะครับ” คุณ ผจก. ถาม
แล้วรินไวน์ให้เมื่อเห็นผมพยักหน้ารับ
“คุณก็ดื่มด้วยสิครับ”
“ไม่เป็นไรครับคุณหยางหยาง
ผมดื่มแอลกฮอล์ลไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ เดี๋ยวจะดูแลคุณได้ไม่ดีนะครับ”
“ก็บอกว่าจะดื่มเป็นเพื่อนผม
คุณก็ต้องดื่มสิครับ ไม่ต้องห่วงผมหรอก ผมดูแลตัวเองได้” ผมบอกคนน่ารัก
แล้วแย่งไวน์มารินให้เสียเอง ปฏิบัติการมอมคุณผู้จัดการเริ่มต้นขึ้น…..
เวลาผ่านไปล่วงเลยจนถึงตีสองกว่า ๆ
คนน่ารักที่ตอนนี้หน้าแดงก่ำ ตาเยิ้ม ยิ้มหวาน ๆ หลังจากดื่มไวน์ที่หมาป่าเจ้าเล่ห์รินให้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนหยางหยางที่ตอนนี้กำลังรินไวน์อีกแก้วขึ้นจิบ ยกยิ้มอย่างสมใจ
มองอี้เฟิงด้วยสายตาเป็นประกาย ก่อนจับตัวอีกฝ่ายให้นั่งพิงอกของตัวเอง ซึ่งอี้เฟิงก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร
อาจเป็นเพราะมีแอลกฮอลล์อยู่ในเส้นเลือดมากกว่าที่ควรจะเป็น
“อี้เฟิง อี้เฟิงชอบผมใช่มั้ย”
หยางหยางที่สังเกตุท่าทางของอี้เฟิงมาตลอดเวลาที่นั่งดื่มด้วยกันถามขึ้น
“คะ คุณรู้? คุณหยางหยาง แล้วคุณล่ะชอบผมหรือเปล่า”
อี้เฟิงเงยหน้าจากอกผม ช้อนตามอง ไม่ตอบคำถาม แต่กลับถามคำถามแทรกขึ้นมาแทน
“คิดเอาเองสิครับ คิดสิ
ว่าถ้าผมไม่ชอบคุณ ผมจะให้คุณอยู่ที่นี่กับผมคืนนี้ทำไม” ผมเอ่ย
และไม่อยู่ฟังคำตอบ แต่ประกบริมฝีปากลงบนเรียวปากนุ่มตรงหน้า
ดูดดึงความหวานของอีกฝ่าย
สอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปกวาดต้อนความร้อนและรสชาติของไวน์ชั้นดีที่ยิ่งทำให้เมามายมากขึ้นเมื่อดื่มจากริมฝีปากคนตรงหน้า
อี้เฟิงชะงักไปแต่เมื่อถูกฤทธิลิ้นร้อน ๆ จูบหวาน ๆ
ก็เหมือนสติสัมปชัญญะจะไม่มีเหลือ ได้แต่ยกมือกำเสื้อคนตัวโตกว่า
และเรียนรู้วิธีจูบตอบตามที่ถูกชักนำ
มือร้อน ๆ ของหยางหยางก็ไม่อยู่สุข
ล้วงเข้าไปในเสื้อของผู้จัดการคนเก่ง ปลดกระดุมด้วยความว่องไว
ลากมือผ่านสันหลังขาวเนียน ละเรื่อยมาสะกิดแผ่นอกตรงหน้า
ตุ่มไตสีหวานแข็งชันจากอากาศเย็น ๆ หยางหยางถอนริมฝีปากออก ก่อนจะเลื่อนรอยจูบไปข้างแก้ม
สูดลมหายใจเก็บความหอมไว้จนเต็มปอด แล้วหันไปหาซอกคอขาว ๆ ดูดดึงจนขึ้นรอยแดงเป็นจ้ำ
ๆ มือเรียว ๆ ปลดกางเกงของอีกฝ่ายลง
“อะ อา คุณ นะ หยาง หยาง ดะ เดี๋ยว”
“หืม ทำไมครับ”
ผมเงยหน้าขึ้นจากหัวไหล่คนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังสั่นสะท้านจากความเสี่ยวซ่าน
“ดะ เดี๋ยวมีใครมาเห็น”
“กลัวใครมาเห็น งั้น….” ผมพูดค้างไว้ แล้วหยิบเน็คไทของอี้เฟิงที่ถอดทิ้งไว้ที่เก้าอี้ตั้งแต่เริ่มดื่มใหม่
ๆ ออกมาปิดตาเจ้าของ
“ปะ ปิดตาผมทำไมครับ”
“ก็จะได้ไม่เห็นใครไง หึหึหึ”
“มะ ไม่ใช่แบบนั้น อ๊ะ”
ผมไม่ฟังเสียงของอี้เฟิง
แต่จับอีกฝ่ายถอกเสื้อออกจนหมด
แล้วหยิบผ้าอีกเส้นที่หยิบติดมือออกมาจากห้องมัดมือคนตัวเล็กกว่าไว้ จากนั้นใช้ริมฝีปาก
จูบไล่ลงมาตั้งแต่หัวไหล่ ฝากรอยรักสีแดงสดไว้แทบทุกที่ที่ริมฝีปากลากผ่าน
ก่อนจะเข้าครอบครองตุ่มสีหวานที่ชูชันยั่วยวนผมจะแทบคลั่ง
“อะ อ๊า อย่ากัด อื้อ”
“หวาน” ผมขบกัดยอดอกสีเรื่อเบา ๆ
ดูดดึงโลมเลียสลับกันทั้งสองข้างอย่างไม่ให้น้อยหน้า ได้ยินเสียงอี้เฟิงร้องขอให้ปล่อยมือของเขา
ผมยกยิ้ม ไม่ปล่อยง่าย ๆ หรอกน่า
ผมผละจากอี้เฟิง
แล้วจับให้นั่งตรงเก้าอี้ดีดี ก่อนจะเดินไปจิบไวน์มาป้อนให้จากปากของผม
น้ำสีแดงสดของไวน์ไหลออกจากปากหยดลงแผ่นอกขาว ๆ
ผมตามชิมไวน์ที่ไหลลงมาที่ตัวอี้เฟิงจนหมด
“ดื่มแล้วหกแบบนี้ เสียดายของนะคุณ”
ผมพูด แล้วหยิบน้ำแข็งในถังโยนเข้าปาก ก่อนจะลากจูบลงไปที่ท้องน้อย
แล้วหยุดที่กลางลำตัวของคนที่กำลังนั่งบิดตัวอยู่บนเก้าอี้
“อ๊าา ยะ เย็น อื้ออ อย่า อ๊ะ”
หยางหยางครอบครองแก่นกายสีสวยด้วยริมฝีปากเย็นจากน้ำแข็ง
ดูดดึงจนอีกฝ่ายสะโพกลอยจากเก้าอี้
“อ๊ะ อา จะ จะ ไม่ ไหว”
หยางหยางได้ยินดังนั้นก็ชะลอจังหวะการรูดรั้งริมฝีปากของตัวเอง
แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ปลดกางเกงของตัวเองลง
“ช่วยผมด้วยสิครับ”
หยางหยางพูดแล้วเดินเอาตัวเองไปชิดอีกฝ่าย
ความร้อนผ่าวจ่ออยู่ที่ริมฝีปากของอี้เฟิงที่มองไม่เห็นอะไร
อี้เฟิงที่กำลังจะสุดทางแห่งอารมณ์ข่มความรู้สึกคั่งค้างของตัวเอง
แลบลิ้นเลียความแข็งขืนร้อนผ่าวราวกับกำลังทานไอศกรีมแท่งโปรด ก่อนจะรับเอาตัวตนของอีกฝ่ายเข้ามาในโพรงปาก
หยางหยางกั้นเสียงคราง แล้วใช้มือประคองศีรษะ กำหนดจังหวะด้วยตัวเอง
“อือ
ดีครับ” เสียงครางบ่งบอกถึงความพึงพอใจทำให้ผู้จัดการคนเก่งรู้สึกมากขึ้นอีก
ความรู้สึกมีอำนาจที่ทำให้ร่างสูงยอมสยบอยู่กับเขา ทำให้อี้เฟิงเร่งจังหวะ
ดูดรั้งแก่นกายที่ดูจะขยายขนาดขึ้นอีกอย่างรวดเร็ว
“อืม
อีกนิดครับคนดี พอก่อนครับ พอแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยก่อนถอนตัวตนออกไป น้ำใส ๆ
เปรอะเปื้อนออกจากริมฝีปากแดงช้ำ หยางหยางก้มลงจูบเก็บกลืนน้ำหวาน
ก่อนอุ้มอีกฝ่ายขึ้นนั่งตักตัวเอง ไล้มือลากผ่านแผ่นหลัง
ดันให้แผ่นอกอยู่ในระดับสายตา ก่อนจะก้มลงชิมรสตุ่มสีหวานโดดเด่นอีกครั้ง
มือละเรื่อยลงมาที่บั้นท้ายหนันแน่น ออกแรงตีจนเกิดเสียงดัง เพี๊ยะ!!
“อ๊ะ อ๊า” อี้เฟิงสะดุ้ง
ทั้งความเสียวซ่านที่หน้าอก ทัั้งการปลุกเร้าด้านล่างทำเอาแทบคลั่ง
ทุกครั้งที่เขาขยับตัว ช่องทางสีสวยก็จะเสียดสีกับแก่นกายขนาดใหญ่ด้านล่าง
ความตื่นเต้นที่มองไม่เห็นทำให้ประสาทสัมผัสของเขามากขึ้นเป็นเท่าตัว
ทุกความรู้สึกที่มือร้อน ๆ ลากผ่าน ทุกความเปียกชื้นที่ลิ้นสาก ๆ ดูดดึง
ความอึดอัดที่ไม่สามารถขยับมือได้ดั่งใจทำให้เขาเหมือนจะเป็นบ้า
หยางหยางเอื้อมมือไปหยิบน้ำแข็งอีกครั้ง
คราวนี้จับน้ำแข็งลากผ่านแผ่นหลังเนียนจนอี้เฟิงเสียวจนต้องแอ่นตัวเข้าหา
ก่อนจะสอดใส่น้ำแข็งก้อนเล็ก ๆ นั้นที่ช่องทางร้อน
“อ๊าาาา
เย็น อ๊ะ อื้ออ” ผู้จัดการอี้เฟิงร้องครางอย่างกระสันเมื่อนอกจากน้ำแข็งก้อนเล็ก ๆ
น้ัน นิ้วเรียวยาวก็สอดตามมา ทำความคุ้นเคย
ก่อนจะขยับเป็นจังหวะเพื่อหาจุดหมายที่ซ่อนอยู่
“อ๊ะ
ตะ ตรงนั้น” อี้เฟิงร้องอีกครั้งเมื่อนิ้วเรียวครูดไปถูกจุด หยางหยางยกยิ้มพอใจก่อนจะเพิ่มจำนวนนิ้วและกดย้ำ
ๆ อยู่ตรงนั้นจนคนบนตักดิ้นพล่านด้วยความเสียว
มืออีกข้างช่วยรูดแก่นกายของพวกเขาทั้งสองพร้อมกัน
อี้เฟิงที่โดนตะล่อมทุกทิศทางหัวหมุนไปหมด
ทั้งริมฝีปากร้อนที่ขบกัดอยู่ตรงซอกคอ ลมหายใจอุ่น ๆ ที่รินรดใบหู
การปลุกเร้าทั้งหน้าและหลังพร้อม ๆ กันทำให้เขาทนไม่ไหว
“อ๊ะ
อ๊าาา อื้ออออออ” น้ำสีขาวขุ่นทะลักออกมาเลอะหน้าท้องของหยางหยาง
อี้เฟิงทรุดลงตรงซอกคอของอีกฝ่าย ตัวอ่อนระทวยกับศึกเร่าร้อนที่เพิ่งผ่านพ้น
“ทิ้งผมไปแบบนี้ใช้ไม่ได้นะครับ
อี้เฟิง ต้องถูกทำโทษแล้วล่ะ” หยางหยางพูดขึ้น
ภาพตรงหน้าทำให้แก่นกายเขาปวดหนึบไปหมด หน้าแดง ๆ ของคนน่ารัก
แววตาหยาดเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกฮอล์ผสมบทรักร้อนแรง ริมฝีปากบวมช้ำเผยอขึ้นหอบหายใจ
คนตัวสูงอุ้มอีกฝ่ายไปที่ระเบียงดาดฟ้า จัดการดึงผ้าปิดตาอีกฝ่ายออก
แล้วแก้มัดมือที่ไพล่หลัง มัดไว้กับราวระเบียงแทน จัดการให้คนตัวอ่อนยืนให้มั่นคง
หันหน้าออกไปทางวิวยามค่ำคืน
“ดูวิวไปด้วย
โรแมนติกดีนะครับ ว่าไหม” หยางหยางพูดขึ้นพลางจับอี้เฟิงหันมาประกบจูบอีกครั้ง
จูบช่ำชองกวาดต้อนความหวานจนหมดลมหายใจ ก่อนที่จะเลื่อนจูบมาที่หลังใบหู
เป่าลมร้อน ๆ จนเสียววาบอีกครั้ง ลากริมฝีปากลงมาที่หัวไหล่ ฝากรอยจูบไว้อีกรอย
ทั้ง ๆ ที่ด้านหน้าเต็มไปด้วยรอยรักมากมาย
หยางหยางเลื่อนริมฝีปากลงมาตามแผ่นหลัง
ดูดดึงเนื้ออ่อน ๆ ขาว ๆ จนเป็นจ้ำ ๆ
กระจายอยู่ทั่วแผ่นหลังจนอี้เฟิงแทบยืนไม่อยู่ ติดเพียงมีมือใหญ่ ๆ คอยประคองไว้ไม่ให้ล้ม
ก่อนก้มลงไปที่ขาอ่อนขาว ๆ จูบลงอีกครั้งที่ต้นขาด้านหลัง ไล้มือไปที่รอยแยกสีหวาน
ก่อนจะสอดแทรกปลายลิ้นเล้าโลมอีกครั้ง
“อะ
อ๊า อ๊า พะ พอ อื้อออ” เสียงครางหวาน ๆ
ที่ดังก้องดาดฟ้าทำให้หยางหยางทนไม่ไหวอีกต่อไป ลุกขึ้นยืน
ก่อนจะแทรกแก่นกายที่ร้อนรุ่มและแข็งขืนเข้าไปอย่างช้า ๆ
“อ๊าาาา
จะ เจ็บ บะ เบา หน่อย” อี้เฟิงร้องพลางถดตัวหนี
แต่ติดที่มืออีกฝ่ายดึงรั้งบั้นเอวเอาไว้
“อืมมมม แน่น”
หยางหยางยังใจเย็นสอดแทรกตัวตนเข้ามาจนสุด ก่อนจะค้างไว้ให้อีกคนปรับตัวได้
ก่อนจะเริ่มขยับ และเมื่อเห็นว่าอี้เฟิงมีปฏิกริยาตอบสนอง
จึงเริ่มกำหนดจังหวะให้รวดเร็วขึ้นตามแรงอารมณ์
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า บะ เบาหน่อย อื้อออ ระ แรงไป อ๊าา”
“บอกให้เบา แต่รัดแน่นขนาดนี้ อาา ปากไม่ตรงกับใจเลยนะ” ผมกระซิบที่ริมหู
กดจูบลงบนซอกคออีกครั้ง มือข้างที่ว่างละมาเค้นคลึงยอดอกที่ชูชันท้าทาย ก่อนใส่จังหวะให้เร็วขึ้นเมื่อใกล้ถึงจุดหมายปลายทาง
“อ๊าา อะ อะ สะ เสียว ละ ลึกไป อื้อออ อ๊าา อีกนิด จะ จะไม่ไหวแล้ว”
เสียงครางหวาน ๆ ร้องตามจังหวะการกระแทกกระทั้น ใบหน้าหวานแหงนเงย
ริมฝีปากเผยอครวญครางจนน้ำสีใสเอ่อล้นออกมาตามคางเรียว
“พร้อมกันนะครับ” หยางหยางกระแทกตัวอีกสามสี่ครั้งก็ระเบิดน้ำรักที่ช่องทางร้อน
ๆ จังหวะเดียวกับที่คนน่ารัก
ก่อนที่จะถอนตัวตนออกมาจนน้ำขาวขุ่นเอ่อล้นช่องทางไหลออกมาตามเรียวขาขาว ๆ
จนหยางหยางทนไม่ได้ต้องก้มลงไปไล้เลียทำความสะอาดให้จนหมด
หยางหยางแกะผ้าที่มัดมืออี้เฟิงออก ก่อนจะอุ้มผู้จัดการโรงแรมไปวางไว้ที่เก้าอี้
ใส่กางเกงของตัวเองลวก ๆ ก่อนหยิบเสื้อของเขาใส่ให้อีกคนที่ตัวอ่อนหมดแรงอยู่
รวบชุดทั้งหมด แล้วอุ้มอีกคนกลับไปที่ห้องสูท
----------------------------------------------------------------------------------------------
“เกอ ผมขอแม่บ้านมาทำความสะอาดห้องซักคนสิ เปิดห้องใหม่ให้ผมด้วย ให้รูมเซอร์วิสเอาไข่ลวกให้ผมซัก
3 ฟอง อ้อ
ผมลางานแทนผู้จัดการของผมเลยแล้วกันซักสองวัน ขอบคุณครับ”
ผมหันไปมองผู้จัดการคนดีที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงยับยู่ยี่
เอาเสื้อไปใส่ให้อีกครั้ง แล้วอุ้มอีกคนที่ยังไม่ฟื้นไปห้องใหม่ที่สั่งไว้
ปล่อยให้พักไปแล้วกัน ถือว่าสงสารที่เมื่อคืนไม่ได้นอนเลย จะว่าไป
ผมก็ควรนอนบ้างสินะ…….
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น