Fic : One day miracle of William chan Part 1
Fic : One day miracle of William chan
#หนึ่งวันมหัศจรรย์ของเฉินเหว่ยถิง
Part 1
#หนึ่งวันมหัศจรรย์ของเฉินเหว่ยถิง
Part 1
แก๊ง แก๊ง
เสียงระฆังดังบอกเวลาเที่ยงคืนของวันคริสต์มาส หิมะโปรยปรายลงอย่างต่อเนื่อง อากาศเย็นลงทุกขณะจนกระจกขึ้นเป็นฝ้า ละอองสีขาวปกคลุมทุกหนแห่งจนมองเห็นเป็นสีขาวโพลน ทุกหนแห่งต่างพากันเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุข ร้านรวงประดับตกแต่งด้วยสายรุ้ง ไฟกระพริบ กระดิ่งวัว ช่อดอกไม้ และต้นสน
เฉินเหว่ยถิงกำลังหลับสนิท
"จงทำสิ่งที่อยากทำ หลังจากวันนี้จะไม่มีใครจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แม้แต่ตัวเจ้าเอง โฮะๆ"
แว่วเสียงดังขึ้นในโสตประสาท เฉินเหว่ยถิงส่ายหัวอย่างรำคาญเสียงที่เหมือนดังขึ้นข้างหู เขาพลิกตัวแล้วยกผ้าห่มคลุมกาย และเข้าสู่ห้วงนิทราไปอีกครั้ง
"ปี๊ดดดดดดดดดดด" เสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นจนร่างสูงที่กำลังจะหย่อนตัวลงบนโซฟาต้องรีบลุกไปเปิดประตูห้องเพื่อดูเหตุการณ์
"ไฟไหม้ ไฟไหม้ ไฟไหม้!!!"
ความวุ่นวายวิ่งผ่านหน้าไปพร้อมกับเสียงอึกทึกครึกโครม เหว่ยถิงพุ่งออกไปจากห้องตัวเอง สอบถามคนที่วิ่งผ่านไปว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ความว่าห้องริมสุดเป็นต้นเพลิง เขาได้ยินดังนั้นจึงรีบพุ่งฝ่าเข้าไปยังห้องนั้น คนในห้องและห้องใกล้เคียงต่างช่วยกันดับไฟ เสียง รปภ. แจ้งว่าหน่วยดับเพลิงกำลังมา สถานการ์ณดูท่าจะไม่ได้รุนแรงเท่าใดนัก
ร่างสูงวิ่งเข้าไปหาเด็กหนุ่มที่ยังยืนห่อตัวหลังพิงอยู่ที่กำแพง ใบหน้าและเนื้อตัวยังเปื้อนเขม่าควัน เขาเข้าไปหาหนุ่มรุ่นน้องที่สนิทกันอย่างต้องการปลอบขวัญ
“หวังหยวน เป็นยังไงบ้าง เกิดอะไรขึ้น”
“ถิงเกอ ถิงเกอ ฮึก” หวังหยวนที่เงยหน้าขึ้นมามองเฉินเหว่ยถิง ใบหน้าติดหวานมีแววตาเศร้าเสียใจ น้ำตายังไหลอาบแก้มไม่หยุด ร่างเล็กโผเข้าหาคนที่เดินมาอย่างต้องการที่พึ่ง
“ไม่เป็นไรแล้วนะ ไหนบอกเกอได้ไหม เกิดอะไรขึ้น” เฉินเหว่ยถิงโอบกอดร่างเล็กไว้กับอก ลูบหัวปลอบโยน ก่อนย่อตัวลงให้ใบหน้าอยู่ระดับพอดีกับสายตาอีกฝ่าย
“ผม ผมวาดรูปอยู่ แล้วอยู่ ๆ ก็มีเสียงอะไรไม่รู้ดังจากในครัว แล้วก็มีเสียงสัญญาณเตือนภัย ผมไม่รู้ฮะ ผมไม่รู้เลย” หวังหยวนตอบด้วยเสียงอู้อี้เล็กน้อย
“ไปห้องเกอก่อนนะ แล้วแม่กับน้องล่ะ” เฉินเหว่ยถิงลุกขึ้นแล้วจูงมือหวังหยวนออกจากห้อง สวนกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เข้ามาควบคุมเหตุการณ์ไว้พอดี
“แม่พาน้องไปโรงพยาบาลฮะ น้องโดนไฟลวกนิดหน่อย”
“งั้นไปพักห้องเกอ เพิ่งจะกี่โมงเอง ยังง่วงอยู่ไหม วันนี้ต้องไปโรงเรียนหรือเปล่า” คนตัวสูงที่เดินนำมาจนถึงห้องเอ่ยถามทันทีที่ปิดประตูลง
“ไม่ง่วงแล้วฮะ แล้ววันนี้โรงเรียนให้หยุดวันคริสต์มาส” หวังหยวนนั่งลงตรงโซฟาขนาดใหญ่กลางห้องรับแขก เฉินเหว่ยถิงเดินไปที่เคาน์เตอร์ครัวเพื่อชงโกโก้ร้อน ๆ ให้เด็กหนุ่มที่ยังคงตกใจไม่หาย ก่อนจะนำมายื่นให้แล้วนั่งลงข้าง ๆ กัน
“ดื่มโกโก้ให้อุ่นท้องก่อน แล้วไปอาบน้ำนะ เนื้อตัวมอมแมมไปหมดแล้ว เดี๋ยวเกอโทรบอกแม่เราก่อนว่าเราอยู่นี่ เดี๋ยวหาไม่เจอจะห่วงซะเปล่า ๆ” พูดจบก็หยิบโทรศัพท์ออกมาจัดการทันที หวังหยวนได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างอย่างขอบคุณ อย่างน้อยในวันที่เขามีเรื่องเดือดร้อนก็ยังมีพี่ชายคนนี้อยู่ข้าง ๆ
“เสี่ยวหยวน เกอบอกแม่ให้แล้ว เดี๋ยวเราอาบน้ำห้องนอนเกอนะ เสื้อผ้าก็หาเอาในตู้ เดี๋ยวเกอจะออกไปข้างนอกหน่อย อยู่ในห้องได้ตามสบายนะ ฝากด้วยล่ะ” เฉินเหว่ยถิงเดินกลับมาหาคนตัวเล็กที่ยังคงนั่งเหม่ออยู่ที่โซฟา หวังหยวนพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะลุกเอาแก้วโกโก้ไปล้างเก็บเข้าที่ แล้วเดินเข้าห้องนอนของเจ้าของห้องไปอย่างคุ้นชิน
‘จงทำสิ่งที่อยากทำ หลังจากวันนี้จะไม่มีใครจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แม้แต่ตัวเจ้าเอง’
เฉินเหว่ยถิงที่กำลังจะก้าวเท้าออกจากห้องชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงแว่ว ๆ จากที่ไหนซักแห่ง ก่อนจะมองไปรอบ ๆ เมื่อไม่เห็นใครก็ได้แต่ส่ายศีรษะเบา ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ติ๊ด ติ๊ด ….. ติ๊ด ติ๊ด
เสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้นจากโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูทำให้เจ้าของต้องรีบเอื้อมมือไปรับสายเมื่อเห็นว่าเลยเวลานัดไปแล้วกว่า 10 นาที
“ฮัลโหล เหว่ยถิงนี่อยู่ไหนแล้ว สายแล้ว นายเลท” ทันทีที่รับสาย อีกฝั่งก็ไม่รอให้เขาได้พูด แทบจะพ่นไฟผ่านสายมาอยู่แล้ว
“Sorry Sorry ขอโทษทีอี้เฟิง มีอุบัติเหตุนิดหน่อย กำลังจะถึงแล้ว”
“นายมาสาย เลี้ยงข้าวด้วย หิวแล้ว รออยู่หน้าร้านเดิม”
“ครับ ๆ ถึงฉันไม่ไปสาย อี้เฟิงก็ให้ฉันเลี้ยงอยู่ดีไม่ใช่หรอ”
“ไม่ต้องมาพูดมาก เร็ว ๆ เลย”
“แล้วเจอกัน”
หลังจากวางสายแล้วเฉินเหว่ยถิงก็เลี้ยวรถเข้าห้างดังที่นัดเพื่อนเก่าเอาไว้ อี้เฟิงเป็นดาราดัง และไม่ค่อยจะว่างนัก หลังจากที่ไม่เจอกันหลายเดือนเพราะเวลาว่างไม่ตรงกันเสียที ครั้งนี้หลังจากที่คุณดาราคนหล่อหาเวลาว่างได้ก็แทบจะต้องโทรจองตัวกันข้ามเดือน เพราะถ้าพลาด ก็อาจจะต้องรอกันข้ามปี
เฉินเหว่ยถิงวนหาที่จอดรถซักพัก ร่างสูงก็วิ่งไปหาร้านที่อีกฝ่ายบอกทันทีเพราะรู้ฤทธิ์เดชกันดี ถ้าทำให้อี้เฟิงโมโห กระเป๋าเงินคงแหกไม่เหลือเก็บไว้กินบะหมี่ได้จนถึงสิ้นเดือน
“มาแล้ว ๆ โทษที ที่คอนโดไฟไหม้น่ะ”
“แล้วเป็นอะไรหรือเปล่า” อี้เฟิงที่ได้ฟังก็แทบจะหายงอนท่ีอีกฝ่ายมาช้า ได้แต่ถามทันทีอย่างรัวเร็ว
“ไม่เป็นไร ๆ ไม่ใช่ห้องฉันหรอก ห้องของน้องข้าง ๆ น่ะ”
“ตกใจหมด ทีหลังพูดให้จบสิ”
“นั่นสิพี่ ผมก็ตกใจหมด” ชายหนุ่มที่ยืนข้าง ๆ อี้เฟิงเอ่ยขึ้น เฉินเหว่ยถิงหันไปหาอย่างแปลกใจเพราะตอนแรกที่ิวิ่งมาก็ไม่ได้สังเกตคนข้างตัวเพื่อนเสียด้วย
“อ้าว หยางหยาง นายก็มาด้วยหรอ” ร่างสูงทักทายอีกคนอย่างเป็นกันเองเพราะคุ้นหน้าคุ้นตารุ่นน้องดี
“ครับ เห็นพี่เฟิงบอกว่าจะมาหาพี่ ผมก็เลยขอเกาะมาหาข้าวกินด้วยคน” ชายหนุ่มร่างสูงเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดี ใบหน้าหล่อยิ้มกว้างจนตาหยี
“ไปคุยข้างในได้ไหม หิวแล้ว” อี้เฟิงที่กำลังหิวจนท้องกิ่วพูดแทรกก่อนจะเดินนำเข้าไปในร้าน ทิ้งให้สองหนุ่มมองหน้ากันแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างเข้าใจนิสัยของคนที่เดินนำเข้าไปก่อนแล้ว
“เอาอันนี้ อันนี้ อันนี้สอง แล้วก็……..” อี้เฟิงที่ได้เมนูไปก็เริ่มต้นสั่งอย่างรวดเร็วจนคนท่ีเพิ่งได้ทิ้งตัวลงนั่งทั้งสองคนมองหน้ากัน
“อี้เฟิง สั่งขนาดนี้ กินหมดหรอ” เฉินเหว่ยถิงถามพลางหันไปมองเมนูที่อีกฝ่ายสั่ง
“หมด ถ้านายกินไม่หมดก็ให้หยางหยางกินสิ อยากตามมานี่นา” อี้เฟิงที่กำลังโมโหหิวสวนทันที ก่อนจะหันไปสั่งเพิ่มแบบไม่เกรงใจคนจ่ายเงิน
“พี่ถิง ผมไม่สั่งนะ พี่เฟิงสั่งมาหมดร้านแล้ว” หยางหยางพูดพลางส่งเมนูคืนให้บริกรไป
“วันนี้เป็นวันคริสต์มาส ทางร้านขอมอบของขวัญให้กับคุณลูกค้านะครับ มีหลากหลายรางวัล ทั้งกินฟรีทั้งโต๊ะ ส่วนลดพิเศษ หรือ ฟรีเมนูของหวาน และอื่น ๆ ขอให้โชคดีนะครับ ใครจะเป็นคนจับครับ” บริกรแจ้งโปรโมชั่นของทางร้าน ก่อนจะยื่นกล่องสำหรับจับรางวัลมาให้กับอี้เฟิง
“ให้คนจ่ายเงินจับก็แล้วกัน จะได้ไม่มาหาว่าฉันมือไม่ดี” อี้เฟิงโบ้ยมาให้เฉินเหว่ยถิง ร่างสูงล้วงลงไปที่กล่องจับฉลากก่อนจะหยิบขึ้นมาให้บริกรได้เปิด
“ยินดีด้วยครับ คุณได้รางวัลกิิฟท์วอยเชอร์ 1,000 หยวน ครับ” หลังจากบริกรประกาศรางวัลเสร็จก็เดินกลับไปเพื่อเตรียมอาหารมาให้
“พี่ดวงดีจังนะพี่ถิง ปกติผมมากินร้านนี้ไม่เคยได้อะไรแบบนี้เลย” หยางหยางเอ่ยพลางมองเมนูที่สั่งไป “คอยดูตอนเก็บเงินเงินดีกว่า ว่าพี่ต้องจ่ายเพิ่มไหม พนันกับผมเปล่า”
“พนันว่าอะไร”
“ผมพนันว่าพี่ต้องจ่ายเพิ่ม ถ้าพี่ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม หมดมื้อนี้พี่ต้องเลี้ยงหนังผม แต่ถ้าพี่ต้องจ่ายเพิ่ม ผมจะช่วยพี่ออกส่วนที่ต้องจ่ายเพิ่มครึ่งนึง”
“ทำไมพี่รู้สึกเหมือนขาดทุนทั้งขึ้นทั้งล่องยังไงไม่รู้” เฉินเหว่ยถิงเอ่ยกับหนุ่มรุ่นน้อง แต่ก็ยอมเอ่ยปากตกลงเล่นพนันด้วย
หลังจากนั้นไม่นานอาหารที่ดาราดังสั่งไว้ก็วางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะจนกินกันแทบไม่ทัน ไม่มีบทสนทนาระหว่างมื้ออาหาร จากที่ตอนแรกดูไม่หิว แต่พอเห็นกับข้าววางตรงหน้า กระเพาะของทั้งสามก็ส่งเสียงประท้วงเรียกร้องให้รีบ ๆ ยัดทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าลงท้องให้หมด จากที่เห็นว่าอาหารสั่งไปเยอะ ไม่กี่อึดใจก็ถูกกวาดลงกระเพาะของชายหนุ่มทั้งสามอย่างรวดเร็ว
อันนี้คือวิ่งเปี้ยวโปรเจคนะคะ คือฟิคคนละสามหน้าถ้วนต่อกันของสามคนแบบไม่บอกพล็อตล่วงหน้า แต่งต่อกันแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ 55555 อยากรู้ไหมคะว่ามันจะจบยังไง เราก็อยากรู้ค่ะ ไม่ต้องถึงตอนจบหรอกค่ะ ตอนต่อไปจะเป็นไง มาลุ้นไปด้วยกันนะคะ
อันนี้คือวิ่งเปี้ยวโปรเจคนะคะ คือฟิคคนละสามหน้าถ้วนต่อกันของสามคนแบบไม่บอกพล็อตล่วงหน้า แต่งต่อกันแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ 55555 อยากรู้ไหมคะว่ามันจะจบยังไง เราก็อยากรู้ค่ะ ไม่ต้องถึงตอนจบหรอกค่ะ ตอนต่อไปจะเป็นไง มาลุ้นไปด้วยกันนะคะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น